ลิงค์ผู้สนับสนุน

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วิธีป้องกัน ดูแลตนเองและชุมชนให้ปลอดภัยจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 (ไข้หวัด A/H1N1)

วิธีป้องกัน ดูแลตนเองและชุมชนให้ปลอดภัยจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 (ไข้หวัด A/H1N1)


ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ระดับ 5-6

* องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดระยะการแพร่ระบาดของโรคออกเป็น 6 ระดับ ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 5 คือ พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่ติดต่อจากคนสู่คนในต่อเนื่องกว้างขวางอย่าง น้อยสองประเทศในภาคผื้นทวีปเดียวกัน หาก ยังขยายวงทำให้เกิดการระบาดอย่างต่อเนื่องกว้างขวางข้ามทวีปก็จะจัดเป็น ระดับ 6 ซึ่งแปลว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่โรคจะขยายไปทุกทวีป

สำหรับ ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก ที่หลายคนกำลังหวาดวิตก กระทรวงสาธารณสุขได้ระบุชื่ออย่างเป็นทางการ ว่า “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009” และได้ร่วมมือกับทุกกระทรวงและทุกองค์กรรวมถึงภาคเอกชนในการป้องกันและควบ คุมโรคไม่ให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและสังคมของคนไทย


ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 คืออะไร

ไข้หวัดตัวนี้ก็เหมือนไข้หวัดใหญ่ที่เคยพบกันมาเพียงแต่มีลักษณะพันธุกรรม ที่ไม่เหมือนในอดีต โดยประกอบด้วยส่วนผสมของเชื้อไข้หวัดที่พบในคน ในนกทวีปอเมริกาเหนือ และในหมู

อย่างไรก็ตาม ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แม้จะมีไวรัสไข้หวัดหมูรวมสายพันธ์อยู่ด้วย แต่การบริโภคผลิตภัณฑ์จากหมูจะไม่มีอันตรายแต่อย่างใด เพราะโดยปกติเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ไม่ติดต่อด้วยการกิน นอก จากนี้เชื้อไข้หวัดใหญ่และเชื้อโรคอื่นๆมัก จะถูกทำลายได้ด้วยความร้อนตั้งแต่ ๗๐ องศาเซลเซียสขึ้นไป ฉะนั้นเมื่อจะรับประทานเนื้อหมูควรปรุงให้สุกดี อย่ากินดิบหรือกึ่งสุกกึ่งดิบ ไม่ใช่เพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่แต่ป้องกันโรคพยาธิและเชื้อโรคชนิดอื่นๆ

เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหญ่ 2009 รวมทั้งไข้หวัดใหญ่ทั่วไปแพร่เชื้อโรคผ่านสิ่งคัดหลั่ง เช่น อุจาระ น้ำมูก น้ำลาย และเสมหะ โดย หากคนเราไม่มีการดูแลรักษาความสะอาด หรือขาดมีการเสริมสร้างสุขลักษณะนิสัยที่ดีก็อาจมีโอกาสติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้ง่าย และสามารถเป็นพาหนะนำพาเชื้อไวรัสนี้ไปสู่ผู้อื่นได้

ดังนั้น หาก เราทุกคนใส่ใจ และร่วมมือกันป้องกันและดูแลตนเอง และคนใกล้ชิดในครอบครัวให้ตระหนักถึงการเสริมสร้างสุขลักษณะนิสัยที่ปลอดภัย จากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ก็จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคนี้ได้ในที่สุด


อาการบ่งชี้ว่าติดเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

ผู้ติดเชื้อจะมีอาการคล้ายกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่พบตามปกติ คือ มีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ จาม เจ็บคอ คลื่นไส้ อาเจียน บางรายอาจมีอาการท้องร่วง สำหรับผู้มีร่างกายอ่อนแอ และเป็นโรคประจำอยู่ก่อน เช่น เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หากติดเชื้อโรคนี้อาจทำให้มีอาการรุนแรงขึ้นได้


คำแนะนำในการป้องกันการติดเชื้อ

สำหรับผู้เดินทางไป-กลับ ต่างประเทศ

1. หากไม่จำเป็นควรเลื่อน หรือชะลอการเดินทางไปเมืองหรือพื้นที่ที่มีการระบาดกว้างขวางต่อเนื่อง ดูได้จากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข www.moph.go.th
2. หากจำเป็นต้องเดินทางไปพื้นที่เกิดการระบาด ให้หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการไอ จาม หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อแนะนำของทางการในพื้นที่นั้นๆ อย่างเคร่งครัด
3. ผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เกิดการระบาด ถ้ามีอาการของไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ ไอ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว เจ็บคอ ภายใน 7 วัน หลังจากเดินทางกลับให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อนรับการรักษาและคำแนะนำในการ ปฏิบัติตนอย่างเข้มงวด สร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ดังนี้

4.1 รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ

4.2 หมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังการไอ จาม

4.3 นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

4.4 ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

5. หากพบว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ภายในบ้าน ควรให้ใส่หน้ากากอนามัย แยกที่นอน และไม่คลุกคลีกับผู้อื่นประมาณ ๗ วัน หากพบในที่ทำงานและมีอาการไอ จาม มาก ควรแนะนำให้หยุดอยู่บ้าน ในกรณีทีพบป่วยหลายคนในเวลาใกล้ๆกันควรแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่น


การเฝ้าระวัง และป้องกันการติดเชื้อ

สำหรับบุคคลปกติ และชุมชน

ในสภาวะการณ์ของการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทุกคนในสังคมล้วนมีส่วนร่วมในการดูแลและป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากการติด เชื้อไวรัส ขณะเดียวกันทุกคนก็เปรียบเสมือนวัคซีน ที่เป็นพลังสำคัญในการยุติโรคนี้ให้บรรเทา และหายไปจากสังคมได้ ขอเพียงทุกคนใส่ใจ และปฏิบัติตาม 4 อ. อย่างเคร่งครัด และจริงจัง

1. อย่าตระหนกตกใจจนเกินเหตุ : ไข้ หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และไข้หวัดใหญ่ทั่วไป ไม่ได้ติดต่อถึงกันได้ง่ายๆ แต่จะแพร่เชื้อได้ก็ต่อเมื่อใกล้ชิดกับคนที่มีอาการเท่านั้น ดังนั้นเราควรเป็นหูเป็นตา หากพบคนใกล้ชิดมีอาการเบื้องต้น คือ มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ ไอ จาม ให้รีบพาไปพบแพทย์ และลางาน – ลาเรียน เป็นการชั่วคราวเพื่อพักผ่อนและรักษาตัวให้หายเป็นปกติ เพื่อเป็นการจำกัดวงการแพร่ระบาดไปสู่ผู้อื่น
2. อย่าไปอยู่ในที่ๆ แออัด : ช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรค เราควรหลีกเลี่ยงสถานที่แออัดเป็นเวลานานๆ สถานที่แออัดได้แก่ต้องเบียดเสียดกัน เพราะเมื่อมีคนไอ จาม เชื้อโรคมีโอกาสเข้าสู่จมูกของเราได้ง่าย
3. อย่าเอามือสัมผัส ตา จมูก ปาก ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงในการติดเชื้อ : สำหรับคนที่ชอบเอามือมาขยี้ตา และแคะจมูก รวมทั้งชอบกัดเล็บ ควรหยุดพฤติกรรมดังกล่าวทันที เนื่องจากมือเป็นอวัยวะที่ไปหยิบจับสิ่งต่างๆ มากมาย จึงเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคนานาชนิด หากเอามาสัมผัส ตา จมูก ปาก เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายและเร็วขึ้น เราจึงต้องระมัดระวัง
4. อย่าลืมล้างมือทุกครั้งให้สะอาด : การหมั่นล้างมือบ่อยๆ เพื่อเป็นการสร้างเสริมสุขลักษณะนิสัยที่ดีในการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย ห่างไกลจากเชื้อโรคต่างๆ


วิธีการดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อ

สำหรับผู้ป่วย

เมื่อเรารู้สึกว่าตัวเองมีอาการป่วยคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือพบผู้อื่นที่มีอาการมีไข้ขึ้น

สูง ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ มีน้ำมูก ไอ และจาม ให้สันษิฐานว่าอาจได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัด

ใหญ่ซึ่งอาจเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธ์เก่าหรือสายพันธ์ใหม่ ซึ่งเราควรมีวิธีการดูแลและป้องกันตนเอง และผู้อื่น ด้วยหลัก 5 พ. ดังนี้


1. พักเรียน – พักงาน : เมื่อเรารู้สึกตัว หรือพบว่ามีคนที่มีอาการไข้ขึ้นสูง ไอ จาม มีน้ำมูก และปวดศีรษะ ควรหยุดเรียน และลางานทันที เพื่อควบคุมวงจรการแพร่ระบาดของเชื้อไม่ให้แพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น จนกว่าจะพักฟื้นหายเป็นปกติ
2. พบแพทย์ : หากมีประวัติการเดินทางกลับจากต่างประเทศควรไปพบทันทีที่มีอาการป่วย เพื่อดำเนินการรักษาอย่างถูกต้องตามอาการ เพื่อฟื้นฟูให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงดังเดิม ในกรณีที่ไม่ได้เดินทางอาจดูแลรักษาตัวเอง โดยปกติอาการจะดีขึ้นใน ๓ วัน หากไม่ทุเลาให้ไปปรึกษาแพทย์
3. ใส่หน้ากาก : การใช้หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยทุกคนต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดไปยังคนอื่น จะเป็นแบบกระดาษใช้แล้วทิ้งหรือแบบผ้าที่เอามาซักแล้วใช้ได้ใหม่ก็ได้ ซึ่งสามารถลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่มีการติดต่อผ่านมาทางละอองจมูก น้ำลาย เสมหะ การไอและการจาม
4. เพิ่มมารยาทการไอ-จาม: หากมีการไอ-จาม อย่าใช้มือป้องปาก เพราะเชื้อจะติดอยู่ที่มือ และง่ายต่อการแพร่เชื้อ เมื่อมีการจับสิ่งของหรือแตะต้องตัวผู้อื่น แต่ ให้ทุกคนพกผ้าเช็ดหน้าติดตัว เมื่อมีอาการไอ-จามทุกครั้งให้นำผ้าเช็ดหน้าปิดปากและจมูก เพื่อป้องกันละอองเชื้อไม่ให้กระจายไปสู่ผู้อื่น โดยหากไม่มีผ้าเช็ดหน้า ให้ใช้กระดาษษทิชชู่ หรือไอใส่แขนเสื้อท่อนบนของตัวเองแทน เชื้อไวรัสจะไม่กระจายไปที่อื่น นับเป็นการตัดวงจรการแพร่เชื้อได้ในระดับหนึ่ง
5. พิถีพิถันในการล้างมือ : ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ สิ่งสำคัญพื้นฐานที่เราทุกคนต้องทำเป็นประจำอย่าให้ขาด คือ หมั่นล้างมือบ่อยๆ ให้สะอาด โดยวิธีการง่าย คือ การเปิดก๊อกให้น้ำไหลผ่านนิ้วและมือพร้อมถูสบู่เป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งนาที หรือร้องเพลง Happy Birthday จบ 2 จบ

การ เฝ้าระวังและดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมไปถึงโรคติดต่อทุกประเภท เป็นสิ่งที่สามารถควบคุมและป้องกันได้ หากเราทุกคนร่วมมือ ร่วมใจกันปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานสาธารณสุขในแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัด โดยหลักของการป้องกันและดูแลดังกล่าวข้างต้น หากทุกคนใส่ใจนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง เชื่อว่าจะสามารถลดการแพร่เชื้อได้สูงถึงร้อยละ 80


สังคมไทย ปลอดภัย ใส่ใจดูแลเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโรคติดต่อ