ลิงค์ผู้สนับสนุน

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เหยื่อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ตายเพิ่มอีก 8 รายในมาเลเซีย

เอเอฟพี - กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย วันนี้ (9) ยืนยันผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มอีก 8 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากหวัด 2009 ในประเทศ เพิ่มเป็น 26 ราย ทั้งนี้ ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น
1 ใน 8 ผู้เสียชีวิตรายล่าสุดเป็นนักศึกษาสาววัย 20 ปี ซึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาล หนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ และ นิว สเตรทส์ไทมส์ รายงานอ้างคำพูดของรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข

“เหยื่อ 8 รายล่าสุด เสียชีวิตระหว่างวันที่ 3-8 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่เพิ่งสามารถยืนยันได้ว่าเสียชีวิตจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ เอช1เอ็น1 ภายหลังการชันสูตรศพ” รมต.สาธารณสุข บอกกับนิว สเตรทส์ไทมส์

มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อหวัด 2009 เพิ่มขึ้นตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา จนนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ต้องออกมาเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการชุมนุมคนจำนวนมาก หากไม่จำเป็น

เมื่อวันพฤหัสบดี (6) ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ออกคำเตือนว่า หมอกควันจากไฟป่าที่ปกคลุมพื้นที่หลายส่วนของมาเลเซีย จะยิ่งทำให้สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เลวร้าย เนื่องจากทำให้อาการเจ็บป่วยในระบบทางเดินหายใจย่ำแย่ลง

ที่มา: http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000090397

เมนูอาหารไทย ต้านไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

You are what you eat” คำกล่าวนี้ยังคงใช้ได้ตลอดกาล...
เชื่อว่าทุกวันนี้ เรารู้จักกับโรคไข้หวัดกันเป็นอย่างดี เมื่อไหร่ที่ร่างกายรู้สึก ร้อนๆ หนาวๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว เกิดอาการไอ จาม ตัวร้อน เจ็บคอ นั่นเป็นการบ่งบอกจากร่างกายของคุณว่าร่างกายอ่อนแอลง และไม่มีภูมิคุ้มกันที่จะมาทำให้คุณต้านเชื้อไข้หวัด ซึ่งทุกอย่างเกิดจากนิสัยการรับประทานที่จะต้องปรับเปลี่ยน และหันมาดูแลในเรื่องนี้ให้มากขึ้นกว่าเดิม

คุณคนึงนิตย์ บัวซ้อน นักโภชนาการ โรงพยาบาลมนารมย์ กล่าวว่า เมื่อร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันเมื่อไหร่ อาจส่งผลให้เป็นไข้หวัดได้ง่ายขึ้น ในเรื่องของการรับประทานอาหารควรจะดูแลอย่างดี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสามารถช่วยป้องกันให้คุณห่างไกลจากไข้หวัด ได้

“ควรดูแลและเอาใจใส่เรื่องนี้อย่างพิถีพิถัน รับประทานอาหารที่ปรุงสุกด้วยตัวเอง จะทำให้สามารถควบคุมเรื่องความสะอาดของอาหาร และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงสำเร็จรูป ซึ่งเวลาผ่านไปอาจทำให้มีเชื้อโรคเข้าไปอยู่ในอาหาร”

วันนี้จะมาแนะนำเมนูง่ายๆ ที่สามารถหาส่วนประกอบ เครื่องปรุงและเครื่องเทศ ได้ง่ายตามท้องตลาด และยังเป็นสมุนไพรในการช่วยต้านทานไข้หวัด ที่รับประทานได้ง่ายๆ กันทั้งครอบครัว

แกงจืดตำลึง...ตับบด

การรับประทานของร้อนจะช่วยให้คุณรู้สึกโล่งได้ และเมนูนี้ยังเหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นเมนูที่รับประทานได้ง่ายกันทั้งครอบครัว หากจะปรุงให้ลูกก็ทำผักให้นิ่มๆ ลูกจะได้เคี้ยวได้ง่าย และสามารถย่อยได้ง่ายอีกด้วย และผักที่นำมาทำแกงจืดก็อาจจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพื่อให้ลูกได้ฝึกการรับประทานผักและยังได้สารอาหารจากผักที่ครบถ้วนอีกด้วย

นอกจากนี้อาจเสริมวิตามินให้แก่ลูกด้วยการนำตับ เช่น ตับหมู ไก่ เป็ด มาบดให้เป็นอาหารให้แก่เด็กที่อยู่ในช่วงก่อนวัยเรียน ที่มีอายุระหว่าง 0-5 ปี ซึ่งเป็นวัยที่คุณแม่จะต้องดูแลเขาเป็นพิเศษ เพราะในตับนั้นมีวิตามินที่สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันไข้ หวัดให้แก่ได้เช่นกัน

แกงส้มผักรวม

ในเมนูนี้สามารถเป็นเมนูที่ต้านไข้หวัดได้ เพราะมีส่วนผสมของสมุนไพรไทยเอาไว้อย่างมากมาย โดยเฉพาะในนำพริกแกง รวมถึงส่วนผสมต่างๆ ที่มีทั้ง กระเทียม พริก และสมุนไพรมากมาย น้ำพริกจะมีรสชาติเผ็ดร้อนช่วยขับลม ดอกแคที่นำมาทำแกงส้มนั้น ส่วนของเกสรจะมีรสหวานออกขมเล็กน้อย มีสารอาหารหลายชนิดทั้งแคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินต่างๆ ทั้งวิตามินเอ บี1 บี2 และวิตามินซี ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้นกันโรคหวัด และดอกแคยังช่วยแก้ไข้หวัด น้ำมะขามเปียกที่นำมาปรุงรสก็มีวิตามินซีสูง ช่วยขับเสมหะ แก้ไอ และเป็นเหมือนยาระบาย ลดอุณหภูมิความร้อนในร่างกาย

นอกจากดอกแคแล้ว อาจนำผักชนิดอื่นมาเป็นส่วนผสมได้อีกมากมาย เช่น ผักที่มีสีเข้ม ฟักทอง แครอท ผักใบเขียว หรือผักต่างๆ ที่สามารถหาได้รอบๆ บ้าน ซึ่งเป็นแหล่งของสารอาหารจำพวกเบตาแคโรทีน มีสารต้านอนุมูลอิสระ ส่วนใหญ่จะป้องกันและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ และยังช่วยป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย

“ไม่ใช่ว่าจะมีเพียงแกงส้มเท่านั้นที่ช่วยต้านหวัดได้ อาหารไทย เช่น แกงเลียง แกงเผ็ด หรือน้ำพริก ผักลวก ที่มีการนำผักต่างๆ และเครื่องเทศ ที่มีรสเผ็ด มีพริก กระเทียม เข้ามาเป็นส่วนผสม สามารถลดอาการคัดจมูก แก้หวัดได้” นักโภชนาการกล่าว

สะเดา น้ำปลาหวาน

ในช่วงของฤดูหนาวใกล้มาเยือน พืชที่คนไทยส่วนใหญ่จะหารับประทานกันอย่างง่ายดาย ก็คือ สะเดา เป็นพืชที่นำมารับประทานได้ทั้งดอกและใบ นำมาลวกและรับประทานควบคู่ไปกับ แกงส้มปลาดุกย่าง หรือจะเป็น เมนูเด็ด อย่าง สะเดาน้ำปลาหวาน ให้ได้ลิ้มลองกัน อีกทั้งยังง

มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้ง แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 1 บี 2 วิตามินซีสูง เบต้าแคโรทีน ที่สามารถต้านทานโรคได้เป็นอย่างดี

ผลไม้ตามฤดูกาล

ผลไม้ถือเป็นแหล่งรวมของวิตามินซีสูง เช่น มะขามป้อม ผลไม้ตระกูลส้ม ฝรั่ง สับปะรด แตงโม มะม่วง แอปเปิ้ล ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินดี โอเมก้า-3 โฟเลต โปรตีน แมกนีเซียม และสังกะสี เป็นกลุ่มที่เรียกได้ว่ามีสารแอนติออกซิแดนซ์สูง ทำหน้าที่ต้านไวรัส ที่เป็นตัวการทำให้เป็นไข้หวัดได้

อาจนำมาทำเป็นน้ำผลไม้ หรือเมนูต่างๆ เช่น ฟรุตสลัด สลัดผลไม้ หากกลัวว่าน้ำหนักจะเพิ่มเมื่อรับประทานสลัด อาจเปลี่ยนจากนำสลัดที่มีส่วนผสมที่ทำให้มีคอเลสเตอรอล มาเป็นโยเกิร์ต รสธรรมชาติ ที่จะช่วยป้องกันโรคไว้ได้แล้ว และยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดีอีกด้วย

“เชื้อไข้หวัด ถ้าหากเรามีภูมิต้านทานร่างกายที่แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โอกาสที่จะเป็นหวัดก็มีน้อยลงเช่นกัน คนที่มีภูมิคุ้มกันน้อยจะทำให้เป็นหวัด การดูแลตัวเองจากภายในและป้องกันเอาไว้ ย่อมเป็นผลดีต่อร่างกายของเราเอง และอย่าละเลยการออกกำลังกายให้สม่ำเสมอด้วย” นักโภชนาการกล่าวทิ้งท้าย

ที่สำคัญไม่ใช่เฉพาะเรื่องอาหารการกินที่หาพึงดูแลให้กับคนในครอบครัวเป็นอย่าง ดี แต่การปฏิบัติตัวในช่วงที่มีไข้หวัดระบาดอย่างนี้ ก็อย่าลืม “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” สวมหน้ากากอนามัยและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

Did you know

อาหารการกินที่สามารถช่วยต้านทานไข้หวัดได้ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1 อาหารที่ช่วยเสริมอินมูนซิสเต็มให้แข็งแรง ได้แก่ กระเทียม ฟักทอง เห็ดชนิดต่างๆ แครอท อัลมอนต์ ถั่วลิสง ชาเขียว ส้ม มะม่วง แอปเปิ้ล อุดมไปด้วยวิตามินเอ ดี โอเมก้า-3 ไลโคปีน

2 อาหารช่วยต้านไวรัส ได้แก่ กะหล่ำปลี มะนาว หอมหัวใหญ่ พริกขี้หนู น้ำผึ้ง ลูกพรุน

3 อาหารที่ช่วยลดอาการหวัดและเพิ่มภูมิต้านทาน ได้แก่ น้ำผลไม้ โดยเฉพาะน้ำส้มคั้น น้ำมะเขือเทศ น้ำขิง ชาเขียว

ที่มา: http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000089400