ลิงค์ผู้สนับสนุน

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สธ.เปิดใช้ ยุทธการ "4×4×4×4" รับมือไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกใหม่ เน้นปรับ 4 พฤติกรรม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงสื่อมวลชนทั่วประเทศผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ รับมือไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยใช้ยุทธการ 4×4×4×4 ให้แจ้งเตือนประชาชนปรับ 4 พฤติกรรม ได้แก่ ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด

วันนี้ (19 พฤศจิกายน 2552) ที่กรมประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะ ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอร์เร้นซ์ ชี้แจงนโยบายการเฝ้าระวังป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกใหม่ แก่สื่อมวลชนสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ และสื่อมวลชนส่วนภูมิภาค ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมพร้อมรับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ระลอกใหม่ในช่วงฤดูหนาวและต่อเนื่องไปหลังเทศกาลปีใหม่ โดยได้กำหนดยุทธการ 4×4×4×4 เพื่อให้ระบบการป้องกันควบคุมโรคมีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากที่สุด

นายวิทยา กล่าวว่า ยุทธการ 4×4×4×4 ประกอบด้วย ยุทธการแรก ได้แก่ การให้ทุกจังหวัดดำเนินงานเข้มข้นเป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่พฤศจิกายน 2552 ไปจนถึงกุมภาพันธ์ 2553 ยุทธการที่ 2 คือ การสร้างความปลอดภัยจากโรคให้ 4กลุ่มคน ได้แก่ กลุ่มวัยเรียน ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงอุดมศึกษา โดยเน้นชั้นอนุบาลและประถมศึกษา กลุ่มวัยทำงาน กลุ่มที่เป็นวัยอยู่บ้านคือเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง รวมทั้งกลุ่มเสี่ยงป่วยรุนแรง เช่นหญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่เป็นโรคอ้วน ยุทธการที่ 3 ได้แก่ การใช้ 4 มาตรการในการบริหารจัดการ ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้สถานการณ์โรคและความเสี่ยงของตนเอง เร่งบูรณาการความร่วมมือในการป้องกันควบคุมโรค สนับสนุนการดำเนินงานของทุกภาคส่วนเพื่อลดการป่วย และการป้องกันในกลุ่มเสี่ยงป่วยรุนแรง ให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาเร็ว ได้ยาเร็ว เพื่อลดการเสียชีวิต รวมทั้งลดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่

ยุทธการสุดท้าย ได้แก่ การเสริม 4 พฤติกรรมการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แก่ประชาชน ได้แก่ 1. เมื่อป่วยให้ใส่หน้ากากอนามัย หากไม่มีเวลาไอจามใส่กระดาษทิชชู หรือไอใส่แขนเสื้อตัวเอง 2.ล้างมือบ่อยๆ ทุกครั้งหลังไอจาม และก่อนกินอาหาร 3.หลีกเลี่ยงไปในสถานที่แออัด การอยู่ใกล้ชิดกับคนป่วยหรือมีอาการไอจาม และ 4.หยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรม เมื่อป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ เพื่อให้หายป่วยเร็วและไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น โดยดำเนินการควบคู่กับมาตรการเดิม คือ 2 ลด ลดป่วย ลดตาย และ 3 เร่ง คือ เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนในการป้องกันตนเอง เร่งให้อาสาสมัครสาธารณสุข อสม.ค้นหา เฝ้าระวังในพื้นที่อย่างเข้มข้น และเร่งบูรณาการการบริหารจัดการให้ครอบคลุมทุกคนในพื้นที่

สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ทั่วโลก ขณะนี้ ประเทศในซีกโลกภาคเหนือ กำลังประสบกับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกใหม่ ส่วนในประเทศไทย การระบาดในกรุงเทพมหานครลดลงมากตั้งแต่ เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และขยายไปในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ขณะนี้ เริ่มมีสัญญาณเตือนการระบาดในระลอกใหม่ เช่น เกิดการระบาดในโรงเรียนในต่างจังหวัด ประกอบกับอากาศเย็นลงและมีงานเทศกาลที่มีคนรวมตัวกันมาก อีกทั้งอาจมีการแพร่ระบาดจากซีกโลกภาคเหนือ คาดว่าในช่วงหน้าหนาวนี้ น่าจะมีการระบาดของโรคในประเทศไทย จึงขอให้สื่อมวลชน แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือกับโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกใหม่นี้

**************************************** 19 พฤศจิกายน 2552

แหล่งข่าวโดย.... สำนักสารนิเทศ

ที่มา http://www.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=29234

สธ.จับมือศธ.ให้นิสิตแพทย์รวม 16 สถาบัน เป็นแกนนำรณรงค์ป้องกันการระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกใหม่

สาธารณสุขลงนามความร่วมมือกับศึกษาธิการ ให้นิสิตจากคณะแพทยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ ใน16 สถาบันทั่วประเทศ ร่วมเป็นแกนนำรณรงค์ให้ความรู้โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 แก่เพื่อนนิสิต ชุมชนใกล้เคียงและประชาชนทั่วไป เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันควบคุมโรค ชี้สถิติที่ผ่านมาโรคนี้ ส่วนใหญ่เกิดในกลุ่มอายุ 11-40 ปี

วันนี้(19 พฤศจิกายน 2552) ที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กทม. นายแพทย์สถาพร วงษ์เจริญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ลงนามความร่วมมือ “โครงการนักศึกษาแพทย์ร่วมแรง ร่วมใจ ต้านไข้หวัดใหญ่ 2009” เพื่อให้นิสิตจากคณะแพทยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ ของสถาบันอุดมศึกษา 16 แห่งในสังกัดทั้งรัฐและเอกชน ร่วมเป็นแกนนำรณรงค์ให้ความรู้โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 แก่เพื่อนนิสิต ชุมชนใกล้เคียงรอบมหาวิทยาลัย และประชาชนทั่วไป
นายแพทย์สถาพร กล่าวว่าขณะนี้ไข้หวัดใหญ่ 2009 กำลังขยายไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดระลอกใหม่ จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง ซึ่งเหมาะกับการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ รวมทั้งเชื้อไวรัสอาจมีการเปลี่ยนแปลงและมีความรุนแรงมากขึ้น จึงต้องมีการประเมินและปรับแผนการป้องกันควบคุมโรคเป็นระยะๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์

ทั้งนี้ จากสถิติผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 ของไทย ส่วนใหญ่เกิดในกลุ่มอายุ 11-40 ปี ซึ่งทั่วประเทศมีประมาณ 30 ล้านคน จึงถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญที่มีโอกาสป่วยและมีอาการรุนแรงได้แม้ไม่มีโรค ประจำตัว และผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ร้อยละ 70 มีโรคหรือภาวะเสี่ยงสูงจากโรคประจำตัว และอีกร้อยละ 30 เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง จึงต้องไม่ประมาท จำเป็นต้องเร่งรณรงค์สร้างความเข้าใจการป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ เป็นความต่อเนื่องในการร่วมรณรงค์ กระทรวงสาธารณสุขจะสนับสนุนองค์ความรู้ ข้อมูลวิชาการในการรณรงค์ และการประชาสัมพันธ์แก่สถาบันอุดมศึกษาที่เปิดสอนคณะแพทยศาสตร์หรือวิทยา ศาสตร์สุขภาพ 16 แห่ง ทั่วประเทศทั้งรัฐและเอกชน โดยสำนักการงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพหรือสสส. สนับสนุนงบประมาณดำเนินการแห่งละ 50,000 บาท เชื่อมั่นว่าโครงการนี้ จะทำให้นิสิตแพทย์ และนิสิตในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพทั้งหมด เป็นบุคลากรสำคัญที่จะมีส่วนช่วยชี้นำและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับ สังคมไทย ในการป้องกันตนเองและป้องกันคนอื่นจากโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ของประเทศไทยอย่างได้ผล นายแพทย์สถาพร กล่าว

************************************* 19 พฤศจิกายน 2552

แหล่งข่าวโดย.... สำนักสารนิเทศ

ที่มา http://www.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=29236