ลิงค์ผู้สนับสนุน

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กรมวิชาการเกษตร แจกฟรีต้นสมุนไพร "ฟ้าทะลายโจร" 5-7 พันต้น สู้หวัดใหญ่ 2009

กรมวิชาการเกษตร แจกต้นสมุนไพร “ฟ้าทะลายโจร” 5-7 พันต้น มีทั้งแบบอัดเม็ด-แคปซูล ให้ประชาชนใช้รับมือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009…



วันนี้(30 ก.ค.)นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ส่งผลให้ประชาชนทั่วไปหันมาใช้สมุนไพรช่วยในการดูแลสุขภาพเพื่อรับมือกับโรค ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสมุนไพรฟ้าทะลายโจรกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย สามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยลดความรุนแรงของอาการโรคหวัด และโรคไข้หวัดใหญ่ ช่วยให้หายหวัดเร็วขึ้น บรรเทาอาการไข้ เจ็บคอ อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสนับสนุนแนวทางการสร้างภูมิคุ้มกันไข้หวัดใหญ่ให้กับประชาชน กรมวิชาการเกษตร ได้จัดเตรียมต้นฟ้าทะลายโจร จำนวน 5,000-7,000 ต้น พร้อมเมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจร ไว้แจกจ่ายให้ฟรีแก่ผู้ที่สนใจนำไปปลูกไว้บริโภคในครัวเรือน ซึ่งคาดว่าจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ ใหม่ในระยะยาวได้อีกทางหนึ่ง

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า นอกจากนั้นยังได้จัดเตรียมผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจร มีทั้งฟ้าทะลายโจรบรรจุแคปซูล ฟ้าทะลายโจรอัดเม็ด ผลิตภัณฑ์ชาฟ้าทะลายโจร ชาปัญจขันธ์ และพลูคาว (ผักคาวตอง) เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนและผู้สนใจนำไปใช้และชงดื่มด้วย แต่มีจำนวนจำกัด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรอัดเม็ดเป็นผลงานชิ้นใหม่ที่บริษัท เอฟแอนด์บีออแกนิคส์ จำกัด มีการผลิตและสกัดด้วยระบบไบโอนาโน (Bio-Nano) ทำเป็นเม็ดยาผสมน้ำผึ้ง ช่วยให้สารสำคัญของฟ้าทะลายโจรถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ดีและรวดเร็ว ยิ่งขึ้น และน้ำผึ้งยังช่วยรักษาคุณค่าสารสำคัญฟ้าทะลายโจร ให้มีความคงทนกว่าการบรรจุแคปซูล โดยกรมวิชาการเกษตรให้การสนับสนุนข้อมูล แนะนำพันธุ์ และเทคโนโลยีการปลูกให้ได้สารสำคัญสูง

นายสมชาย กล่าวอีกว่า ในประเทศไทยมีการปลูกฟ้าทะลายโจรอยู่ทั่วไป สำหรับแหล่งปลูกฟ้าทะลายโจรเพื่อการค้าส่วนใหญ่อยู่ในเขตจังหวัดปราจีนบุรี นครปฐม และจังหวัดราชบุรี รวมพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ ซึ่งปกติฟ้าทะลายโจรจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินร่วนซุย และมีการระบายน้ำดี โดยทั่วไปนิยมปลูกในช่วงฤดูฝน และเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม การเก็บเกี่ยวให้มีปริมาณสำคัญสูง ควรเก็บเกี่ยวเมื่อต้นฟ้าทะลายโจรเริ่มออกดอก ซึ่งพืชจะมีอายุประมาณ 110-150 วันหลังปลูกด้วยเมล็ด กรณีที่ปลูกแบบย้ายกล้า ใช้ระยะปลูก30x60 ซม. ปลูก 1 หลุมต่อต้น อายุเก็บเกี่ยวหลังย้ายกล้าจะใช้ระยะเวลา 80-90 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อใช้ประโยชน์ได้ สำหรับประชาชนและผู้สนใจมีความต้องการต้นและเมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจรไปปลูก หรือต้องการผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจร รวมทั้งชาชงปัญจขันธ์ และพูลคาว สามารถติดต่อได้ที่ สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร โทร.0-2940-5484 ต่อ 113 ด่วนมีจำนวนจำกัด.

ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/edu/23179

ไบโอเทคเจ๋ง เตรียมพัฒนาวัคซีนลูกผสม ป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2 สายพันธุ์

นักวิจัยจากไบโอเทคพัฒนาวัคซีนลูกผสม ที่สามารถป้องกันไวรัส 2 ชนิด ได้พร้อมๆ กัน คือ ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 และไข้หวัดใหญ่ ตามฤดูกาล

นายอนันต์ จงแก้ววัฒนา หัวหน้าห้องปฎิบัติการไวรัสวิทยาและเซลล์วิทยา ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าววันนี้ (1 ส.ค.) ว่า ปัจจุบันการพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 มาจากไวรัสชนิดเอเท่านั้น ซึ่งจะป้องกันไวรัสชนิดเอ ได้เพียงอย่างเดียว แต่ไม่สามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ ตามฤดูกาลได้ โดยล่าสุด ทีมวิจัยไบโอเทคอยู่ระหว่างพัฒนาวัคซีนลูกผสม สามารถป้องกันไวรัสได้ 2 ชนิด คือ ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ชนิดบี และไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์ใหม่ 2009 หากฉีดเข้าร่างกายของคน จะทำให้สร้างแอนติบอดี้ ต่อต้านไวรัสชนิดบี และสร้างแอนติบอดี้ ต่อต้านไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์ใหม่ 2009 ได้ ในคราวเดียวกัน

นายอนันต์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามฤดูกาล ที่พบบ่อย มี 3 ชนิด คือ เอช 1 เอ็น 1 เอช 3 เอ็น 2 และชนิดบี โดยทีมวิจัยคัดเลือกไวรัสชนิดบี ผสมกับไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 สายพันธุ์ใหม่ 2009 เนื่องจากโดยหลักการแล้ว หากนำเชื้อไวรัสชนิดเดียวกันมาผสมกัน จะก่อให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ได้ แต่วัคซีนลูกผสม ที่มาจากไวรัสชนิดบี เป็นคนละชนิด จะไม่เกิดการแลกเปลี่ยนพันธุกรรม กับไวรัสชนิดเอ หรือไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2009 จึงไม่ต้องกังวลว่า วัคซีนลูกผสมนี้ จะก่อให้เกิดการกลายพันธุ์

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/edu/23463