ลิงค์ผู้สนับสนุน

วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2552

หลวงพ่อคูณอาพาธมีอาการคล้ายติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 แพทย์ให้ยาทามิฟูลต้านไวรัสแล้ว

คมชัดลึก :หลวงพ่อคูณส่อติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 แพทย์ให้ยาทามิฟูลหลังมีไข้สูงกลางดึก ขณะที่อาการทั่วไปยังน่าห่วง

(14ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า อาการอาพาธของพระเทพวิทยาคมหรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 ตึกเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หลังจากลูกศิษย์ใกล้ชิดได้นำหลวงพ่อคูณฯส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเร่ง ด่วนตั้งแต่วานนี้ (13ส.ค.) เนื่องจากมีอาการเบลอ หลงๆลืมๆ และจำใบหน้าลูกศิษย์ใกล้ชิดไม่ได้

ซึ่งแพทย์คาดว่าหลวงพ่อคูณน่าจะมีอาการสับสนเฉียบพลัน ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นสำหรับผู้สูงอายุ แพทย์ได้ให้หลวงพ่อคูณนอนพักรักษาตัวที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 ห้อง 9821 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดโดยไม่มีกำหนดออกจากโรงพยาบาล

ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (13ส.ค.)หลวงพ่อคูณมีอาการไข้สูง ซึม ไอ มีเสมหะและหนาวสั่น แพทย์ได้ให้น้ำเกลือ ยาขยายหลอดลม และให้ยาทามิฟูลต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กับหลวงพ่อคูณเนื่องจากเกรงว่าหลวงพ่อคูณอาจติดเชื้อหวัดใหญ่ 2009 โดยหลังจากแพทย์ให้ยาทามิฟูลแล้วช่วงเช้าวันนี้ (14ส.ค.)หลวงพ่อคูณมีอาการดีขึ้นบ้างเล็กน้อย ไข้ลดลง ส่วนผลการตรวจจากห้องปฏิ บัติการจะทราบผลอีก 2 วันว่าหลวงพ่อคูณติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไม่ โดยเช้าวันนี้(14ส.ค.)หลวงพ่อคูณมีสีหน้าอิดโรยอ่อนเพลียและมีอาการไอ เสมหะมาก แพทย์ได้ใช้ยาพ่นขยายหลอดลมเพื่อให้หายใจสะดวกขึ้น

นายแพทย์สุรินทร์ แซ่ตั้ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาท รพ.มหาราชนครราชสีมา กล่าวว่า อาการหลงลืมและสับสนของหลวงพ่อคูณ ยังมีอยู่ แต่เริ่มจดจำใบหน้าลูกศิษย์ใกล้ชิดบางคนได้บ้างแล้ว ซึ่งถือเป็นอาการปกติของผู้สูงอายุวัยนี้และหลวงพ่อคูณเคยเข้ารับการผ่าตัด สมองครั้งใหญ่มาแล้ว ทั้งนี้แพทย์ได้ให้ยาบำรุงสมองเพื่อให้หลวงพ่อคูณฟื้นความทรงจำกลับมาเหมือน เดิมและให้น้ำเกลือไปแล้ว 2 ขวด เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น

นายแพทย์อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอดและเวชบำบัดวิกฤต โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กล่าวว่า เมื่อคืนที่ (13ส.ค.) ผ่านมาเวลาประมาณ 23.10 น. หลวงพ่อคูณมีอาการไข้สูง คณะแพทย์ตัดสินใจให้ยาทามิฟูลซึ่งเป็นยาต้านเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 เนื่องจากเกรงว่าหลวงพ่อคูณอาจติดเชื้อดังกล่าว โดยการให้ยาทามิฟูลนั้นร่างกายหลวงพ่อคูณตอบสนองยาดี ไข้เริ่มลดลงเกือบเป็นปกติ แต่ยังคงมีเสมหะ และไอมาก ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาขยายหลอดลมช่วยให้หายใจได้สะดวก ส่วนยาทามิฟูลที่ให้หลวงพ่อคูณนั้นร่างกายท่านตอบสนองดีไม่มีผลข้างเคียงใน การรักษาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการนั้นจะทราบผลภายใน 1-2 วันว่าหลวงพ่อคูณติดเชื้อหวัดใหญ่ 2009 หรือไม่ อย่างไรก็ตามคณะแพทย์ยังต้องดูแลอาการของหลวงพ่ออย่างใกล้ชิดเพราะถือว่า ท่านอาพาธหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาจึงงดเยี่ยมอย่างเด็ดขาดและขอฝากให้ลูก ศิษย์ใกล้ชิดของหลวงพ่อที่ต้องดูแลตลอด 24 ชม.ต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นายแพทย์อนุชิตฯกล่าว
ทางด้านนพ.พินิจจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราช นครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ ว่า อาการทั่วไปดีขึ้นเล็กน้อย ส่วนอาการอย่างอื่นยังบอกไม่ได้ แต่ยังมีอาการไข้หนาวสั่นรุนแรงกว่าทุกครั้ง เบื้องต้นคาดว่าอาจเป็นหวัดใหญ่ 2009 เพราะมีอาการที่บ่งบอกค่อนข้างชัดเจน จึงให้ยาโอเซลทามิเวียร์เพื่อต้านเชื้อไว้รัสแล้ว

นพ.พินิจจัย กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าหลวงพ่อคูณมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อหวัดสายพันธุ์ ใหม่อย่างมาก เนื่องจากคลุกคลีกับญาติโยมจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน เบื้องต้นที่ระบุว่ามีอาการทางสมองนั้น ในทางการแพทย์อาการเช่นนี้ก็เกี่ยวพันกับไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ได้เช่นกัน ซึ่งจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ดังนั้น จะต้องให้ยาต้านไวรัสอย่างน้อย 5 วันเพื่อดูอาการ

ที่มา: http://www.komchadluek.net/detail/20090814/24292/%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B8%93%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%9409%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%9F%E0%B8%B9%E0%B8%A5.html

กทม.สรุปยอดไข้หวัดใหญ่ 2009 คนกรุงเสียชีวิตแล้ว 22 ราย ป่วยสะสมเฉียด 600 ราย

กทม.สรุปยอดหวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 คร่าคนกรุงไปแล้วรวม 22 ราย มีป่วยสะสม 590 ราย เผยเตรียมทำโครงการมิสเตอร์สุขภาพในสถานประกอบการสร้างความเข้าใจป้องกันหวัด-ไข้เลือดออก

พญ. มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการติดตามผลการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ ใหม่ 2009 ในพื้นที่ กทม.ว่า จากสถิติผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในพื้นที่ กทม. ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. - 12 ส.ค. พบว่ามียอดผู้ป่วยสะสม 3,881 ราย รวมยอดในรอบสัปดาห์มีผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้น 233 ราย มียอดผู้ที่เสียชีวิต 22 ราย ซึ่งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตเพิ่มจำนวน 3 ราย ซึ่งเป็นหญิง1 ราย และเป็นชาย 2 ราย ทั้งนี้ยังมีผู้ป่วยรักษาอยู่ในโรงพยาบาลสังกัดกทม. 590 ราย ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวน 16 ราย

พญ.มาลินี กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงสถานการณ์ไข้เลือดออกในพื้นที่ กทม. ซึ่งมีแนวโน้มที่คน กทม.จะป่วยเป็นจำนวนมากในช่วงของฤดูฝนที่จะมาถึง ซึ่งจากสถิติตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนกรกฎาคม ปี 2552 พบว่ามีผู้ป่วยจำนวน 2,616 คน และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 คน เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้ป่วยช่วงปี 2551 พบว่ามียอดผู้ป่วยลดลง คือมีผู้ป่วย 12,443 คน มีผู้เสียชีวิต 15 คน

ซึ่ง กทม.ได้หามาตรการป้องกันเชิงรุก โดยประสานกับสถานประกอบการในพื้นที่ กทม. ให้ส่งตัวแทนมาอบรมกับ กทม.ในการทำหน้าที่เป็นมิสเตอร์สุขภาพ และนำความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่ให้กับเพื่อนร่วมงาน นอกจากนั้นแล้วในวันที่ 22 ก.ย.นี้ กทม.จะร่วมรณรงค์กำจัดหมัดหนู หนู และแมลงสาบที่ตลาดสด กทม. และตลาดสดของเอกชนด้วยเพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของเชื้อกาฬโรคจากหมัดหนู

ที่มา: http://manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000092081