ลิงค์ผู้สนับสนุน

วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552

เผยวัคซีนไข้หวัด2009 แพงสุด20ดอลลาร์ต่อโดส

เอเอฟพี - คาดหมายว่าประเทศต่างๆทั่วโลกต้องจ่ายเงินระหว่าง 2.50 ถึง 20 ดอลลาร์ต่อวัคซีนรักษาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 1 โดส แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการจ่ายของแต่ละประเทศ เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกเปิดเผยเมื่อวันพุธ(2)
วัคซีนไข้หวัดใหญ่2009 กำลังส่งถึงประเทศต่างๆ ขณะที่คาดหมายว่าราคาในแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน

นอกจากนี้ แมรี่ พอล คีนีย์ ผู้อำนวยการด้านวิจัยวัคซีนขององค์การอนามัยโลก ยังเตือนด้วยว่าวัคซีนจะไม่เพียงพอต่อพลเมืองโลกทั้งหมดและประชาชนไม่ควรไว้ วางใจวัคซีนเพียงอย่างเดียว พร้อมแนะให้ใช้มาตรการป้องกันอื่นๆในการต่อสู้กับไว้รัสเอช1เอ็น1 อาทิหลีกเลี่ยงแหล่งชุมนุมชนขนาดใหญ่ รวมถึงปิดโรงเรียนและเอาใจใส่ต่อสุขลักษณะส่วนตัว

คีนีย์ ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารด้านสาธารณสุขฉบับหนึ่งซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพุธ(2) ว่า "มีมาตรการอื่นๆ อาทิเว้นระยะห่างทางสังคม ปิดโรงเรียน หลีกเลี่ยงสถานที่ชุมนุมชน ใช้ยาปฏิชีวนะและเอาใจใส่ต่อสุขลักษณะส่วนตัว นี่ไม่เหมือนโรคพิษสุนัขบ้า ที่เหยื่อต้องตายทุกคนหากไม่ได้รับวัคซีน เรากำลังพูดถึงโรคติดต่อที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถหายเองได้"

ผู้อำนวยการด้านวิจัยวัคซีนย้ำว่าองค์การอนามัยโลกจะช่วยประเทศต่างๆ ให้เข้าถึงวัคซีนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และชาติร่ำรวยอาจต้องจ่าย มากกว่า 25 ดอลลาร์สำหรับวัคซีน 1 โดส

"อุตสาหกรรมนี้จะกำหนดราคาเป็นขั้นๆ ดังนั้นประเทศที่มีรายได้สูงอาจต้องจ่ายเงินราว 10 ถึง 20 ดอลลาร์ต่อโดส ส่วนประเทศที่มีรายได้ระดับกลางอาจต้องจ่ายครึ่งหนึ่ง ขณะที่ประเทศที่มีรายได้น้อยจะซื้อได้ในราคาถูกกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ ระดับกลาง" เธอกล่าว

อังกฤษและฝรั่งเศสได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 ชุดแรกแล้วเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม ขณะที่รัฐบาลของหลายประเทศเริ่มต้นรับมือกับความคาดหมายว่าอาจเกิดการระบาด ของไวรัสเอช1เอ็น1ระลอกสองในช่วงฤดูหนาวของประเทศในซีกโลกเหนือ

ที่มา: http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000100564

ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในเวียดนามระบาดเร็ว สุดสัปดาห์เจอผู้ป่วยติดเชื้อกว่า 300 ราย

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส A/H1N1 หรือไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ในเวียดนาม พุ่งสูงขึ้นอีกมากกว่าวันละ 150 ราย โดยในวันที่ 29 ส.ค.พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่นี้สูงที่สุดถึง 157 ราย และพบอีก 152 รายในวันที่ 30 ส.ค.

ภาพสำนักข่าวเวียดนามเน็ต โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อนและโรคติดต่อในนครโฮจิมินห์รับคนไข้อีกนับร้อยใน ช่วงสุดสัปดาห์มานี้ ไวรัส A/H1N1 ยังคงลุกลามไม่หยุดและแพร่ระบาดเร็วกว่าเดิม เพียงแค่สองวันพบผู้ป่วยกว่า 300 คนทั่วประเทศ

ผู้ป่วยที่พบส่วนใหญ่อาศัยอยู่ทางภาคใต้ของประเทศ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อที่พบในบริเวณพื้นที่ราบสูงภาคกลางก็ยังคงเพิ่มจำนวน ขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดมีผู้ป่วยรายใหม่อีก 18 รายเมื่อวันที่ 30 ส.ค.

จนถึงในช่วงสัปดาห์ระหว่างวันที่ 23-30 ส.ค.ที่ผ่านมา ทั่วประเทศพบผู้ติดเชื้อไวรัส A/H1N1 เพิ่มอีกถึง 825 ราย นับเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าเดิมเมื่อเทียบจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่พบผู้ ป่วยทั้งสิ้น 533 ราย

อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 นี้ โรงเรียนหลายแห่งในเมืองหลวงหรือกรุงฮานอยได้อยู่ภายใต้แผนการป้องกันการ แพร่ระบาดเป็นอย่างดี ทำให้จนถึงวันที่ 28 ส.ค.ยังไม่ปรากฏผู้ติดเชื้อรายใหม่

นายเหงียน ฮวี งา (Nguyen Huy Nga) อธิบดีกรมป้องกันควมคุมโรคและสิ่งแวดล้อมกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทางกระทรวง ได้ทำการตรวจตราตามโรงเรียนต่างๆ ในกรุงฮานอยและจังหวัดถายงเวียน (Thai Nguyen) ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือเป็นจำนวนทั้งสิ้น 13 โรง แต่โรงเรียนตามพื้นที่ในชนบทนั้นยังคงพบกับอุปสรรคในการดำเนินการป้องกันการ ติดเชื้อไข้หวัด อันเนื่องมาจากสภาวะด้านสุขอนามัยที่ไม่ดีในประชาชน การขาดแคลนเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณสุข และจำนวนหน้ากากอนามัยที่ไม่เพียงพอแจกจ่ายให้กับเด็กนักเรียนในโรงเรียน ต่างๆ

นับตั้งที่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ในเวียดนาม จำนวนผู้ติดเชื้อดังกล่าวยังคงเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามการรายงานของกระทรวงสาธารณสุข โดยจำนวนผู้ป่วยที่ปรากฏในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ค.พบยอดผู้ป่วยเพิ่มเพียง 300 ราย และขยับสูงขึ้นอีกจำนวนกว่า 1,000 ราย ในช่วงต้นเดือน ส.ค.

ที่มา:http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9520000100246