ลิงค์ผู้สนับสนุน

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แนะประชาชนระวังติดไข้หวัด2009 ชี้ขนาด "เจ๊หน่อย" ยังติด

ปชป. แนะ ปชช.ให้ระวังตัวเองจากหวัด09มากขึ้น ชี้ขนาด "เจ๊หน่อย" ที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดี เป็นถึงอดีตนายกฯ สธ. ยังติด ...

วานนี้ (6ส.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก และในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และอดีต รมว.สาธารณสุข ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ข่าวที่ออกมาเหมือนเป็นการดิสเครดิตรัฐบาลว่า ทำไมปล่อยให้อดีต รมว.สาธารณสุข ป่วยเป็นไข้หวัด 2009 แต่ถ้ามองแบบใจเป็นธรรมจริงๆ แล้ว คุณหญิงสุดารัตน์มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะมีส่วนออกมาทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องไข้หวัด 2009 รวมทั้งมีการวิจารณ์รัฐบาลด้วยแต่บังเอิญแนะนำไปแนะนำมากับมาติดหวัด 2009 เอง ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็นว่า หวัด 2009 สามารถติดต่อได้ง่าย ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในการป้องกันมากกว่านี้ เพราะขนาดอดีต รมต.สาธารณสุข ที่มีความข้าใจอย่างดีแล้วยังเป็นหวัด 2009 ได้

นพ. วรงค์ กล่าวด้วยว่า ประชาชนต้องระวังตัวเองมากกว่านี้ เมื่อถามว่า ทำไมถึงมองว่าเป็นการดิสเครดิตรัฐบาล น.พ.วรงค์ กล่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์ก็มีส่วนในการทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องไข้หวัด 2009 มีการให้คำแนะนำรณรงค์กับประชาชนยังสามารถติดหวัดได้ และให้ประชาชนดูและป้องกันตัวเองให้มากขึ้น เพราะเชื้อติดต่อง่าย

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/edu/24708

มานิต แจงระบบการจ่ายยาโอเชลทามีเวียร์ยังไม่สมบูรณ์

รม ช.สธ.ตรวจสอบพบระบบการแจ้งข้อมูลการจ่ายยาโอเชลทามีเวียร์ยังไม่สมบูรณ์ ไม่ทราบปริมาณการใช้ยาต่อวัน ชี้ต้องปรับระบบการแจ้งข้อมูลการจ่ายยาในรพ.ทั่วประเทศ เพื่อใช้คำนวณการสำรองยาให้เพียงพอ

นาย มานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าววันนี้ (8 ส.ค.) ภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัยว่า ได้มาติดตามช่องทางพิเศษที่รับตรวจรักษาผู้ป่วยไข้หวัดทุกชนิด ติดตามการใช้ยาโอเชลทามีเวียร์ และระบบการส่งข้อมูลการใช้ยาของโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง ที่ส่งข้อมูลการใช้ยาผ่านองค์การเภสัชกรรมว่าแต่ละโรงพยาบาลมีการใช้ยาเพื่อ รักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไปกี่เม็ด ซึ่งขณะนี้พบว่าระบบยังไม่สมบูรณ์ คงต้องมีการปรับเปลี่ยนและปรับข้อมูล เพื่อให้ทราบว่าในรอบ 1 วัน ทั่วประเทศมีการจ่ายยาโอเชลทามีเวียร์ไปกี่เม็ด เพื่อใช้ในการคำนวณการสำรองยาให้เพียงพอ หากเกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ เนื่องจากเมื่อเข้าสู่เดือนสิงหาคม – กันยายน ซึ่งเป็นช่วงปกติที่ไข้หวัดใหญ่จะระบาดมากที่สุด คาดว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น

นาย มานิต กล่าวต่อว่า ต้องปรับปรุงระบบการแจ้งข้อมูลการใช้ยาโอเชลทามีเวียร์ ขณะนี้ยังไม่สามารถส่งผ่านระบบขององค์การเภสัชกรรมได้ เนื่องจากขององค์การเภสัชกรรมจะทราบแต่ยอดคงเหลือ ไม่มีลงข้อมูลยอดการใช้ยาแต่ละวัน ซึ่งยาที่เข้ามาของระบบโรงพยาบาลบางแห่ง ไม่ได้มาจากแหล่งขององค์การเภสัชกรรมเพียงแหล่งเดียว ทำให้ยอดไม่นิ่ง ต้องการปรับยอดให้นิ่ง

สำหรับ การจ่ายยาให้ผู้ป่วยที่โรงพยาบาลศรีสัชนาลัย นายมานิต กล่าวว่า ไม่มีปัญหาเพราะมีผู้ป่วยจำนวนน้อย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่จ่ายยาโอเชลทามีเวียร์ เป็นผู้ป่วยในที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น ได้มอบนโยบายว่า เมื่อตรวจพบผู้ป่วยเข้าข่าย ตามแนวทางปฏิบัติการดูแลรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อหรืออาจติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ของกระทรวงสาธารณสุข ให้ยาโอเชลทามีเวียร์ทันที หากอาการไม่หนักให้จ่ายยาและกลับไปพักที่บ้านได้ และให้สังเกตคนในครอบครัวหากป่วยมีไข้ให้รีบมารักษาในโรงพยาบาลทันที นายมานิตกล่าว

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/special/25006