ลิงค์ผู้สนับสนุน

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

"หลวงพ่อคูณ" ย้ำติดไข้หวัดใหญ่ 2009 ไม่ใช่เรื่องใหญ่

คมชัดลึก :แพทย์ ระบุ ผลตรวจหวัดใหญ่ 2009 หลวงพ่อคูณยังไม่ออก แต่คาดติดแน่นอน ด้านหลวงพ่อคูณ เผย ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรติดก็ติด

(15ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า อาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่พักรักษาตัวอยู่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ล่าสุดนายแพทย์พิพิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด และเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณพร้อม ด้วยนายแพทย์อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอดและเวชบำบัดวิกฤติและนายแพทย์ชัยวัฒน์ ตุงคเสรีรักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมประสาท เข้าตรวจอาการของหลวงพ่อคูณฯพร้อมกับพ่นยาซานามีเวียร์แก่หลวงพ่อคูณฯเพื่อฆ่าเชื้อในปอด

โดยหลวงพ่อคูณดีขึ้นมาก มีสีหน้าสดชื่นแจ่มใสกว่าทุกวัน และความจำคืนมาปกติแล้ว โดยหลวงพ่อคูณสามารถจดจำลูกศิษย์ได้ทุกคน และทักทายกับแพทย์ลูกศิษย์อย่างอารมณ์ดี ด้านแพทย์ยังให้ยาโอเซลทามิเวียร์ และยาซาทามิเวียร์กับหลวงพ่อคูณเหมือนเดิม เนื่องจากแพทย์ยังคาดว่าหลวงพ่อคูณอาจติดเชื้อหวัด2009 ซึ่งหลังจากให้ยาแล้วหลวงพ่อคูณมีอาการตอบสนองดี แต่ยังมีอาการไอและมีเสมหะเล็กน้อย

เวลา 08.00 น. นายสมศักดิ์ ปริสุทโธเหมธานนท์ รองผวจ.นครราชสีมา พร้อมนางสาววันนา พิจารณาธรรม คณะกรรมการวัดบ้านไร่ฝ่ายอาหารและลูกศิษย์ใกล้ชิดได้นำภัตตาหารเช้ามาถวาย แด่หลวงพ่อคูณฯ ประกอบด้วย ข้าวสวย ปลาดุกย่าง หมูทอด ผัดถั่วงอก ผัดบวบใส่กุ้ง แกงจืดวุ่นเส้นผักกาดขาว น้ำพริกปลาฉลาด ผักต้ม ขนมครก กล้วยน้ำหว้า และมะละกอ ซึ่งหลวงพ่อฉันได้มากและพูดคุยกับลูกศิษย์ตลอดเวลา

นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณกล่าวภายหลังตรวจอาการหลวงพ่อคูณว่า ผลตรวจเชื้อไข้หวัด2009อย่างเป็นทางการจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์จะทราบผลอย่างเป็นทางการภายใน 48 ชั่วโมง คณะแพทย์คาดว่าหลวงพ่อคูณอาจติดเชื้อหวัด2009 เนื่องจากหลวงพ่อคูณมีอาการหลายอย่างคล้ายกับผู้ป่วยหวัด2009 ซึ่งหลังจากแพทย์ได้ให้ยาโอเซลทามิเวียร์ และยาซาทามิเวียร์แล้วหลวงพ่อคูณมีอาการตอบสนองดีมาก และแพทย์จะยังคงให้ยาทั้ง2ชนิดต่อไปจนครบครอส 5 วัน

โดยจนถึงวันนี้แพทย์ให้ยาโอเซลทามีเวียร์ไปแล้ว 4 เม็ด เหลืออีก 6 เม็ด ส่วนยาซาทามิเวียร์จะพ่นเช้าและเย็นทุกวัน สำหรับอาการทั่วไปของหลวงพ่อคูณดีขึ้นตามลำดับ สดชื่นแจ่มใส ฉันอาหารได้มากกว่าเดิม ส่วนความจำหลวงพ่อคูณกลับคืนมาเป็นปกติและสามารถจดจำลูกศิษย์ได้ทุกคนแล้ว ทั้งนี้แพทย์จะยังคงให้หลวงพ่อคูณนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกอย่างน้อย 3-4 วัน และสั่งห้ามเยี่ยมเด็ดขาดเพื่อให้หลวงพ่อคูณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

ด้านหลวงพ่อคูณฯ กล่าวว่า เอออาการป่วยก็เป็นเรื่องธรรมดาวันนี้อาการกูดีขึ้นมากแล้วไม่เป็นอะไรด๊อก ส่วนที่หมอบอกว่ากูอาจจะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 นั้น กูก็ไม่รู้สึกอะไรด๊อกถ้าจะเป็นจริงๆก็ต้องเป็นกูไม่สามารถจะป้องกันอะไรได้ ซึ่งทุกๆคนมีโอกาสเป็นเหมือนกันหมด แต่กูก็ป่วยไม่มากด๊อก เป็นเล็กๆน้อยๆ เป็นแค่ธรรมดาไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรพออยู่ได้ วันนี้กูก็ฉันยาฉันข้าวได้มาก และอยากกลับวัดบ้านไร่แล้วหลานเอ๊ย หลวงพ่อคูณฯกล่าว

ที่มา: http://www.komchadluek.net/detail/20090815/24401/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B8%93%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%9409%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88.html

ญี่ปุ่นพบผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 รายแรกแล้ว

เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นของญี่ปุ่นรายงานวันนี้(15) ว่า พบผู้เสียชีวิตรายแรกของประเทศจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยเป็นชายวัย 57 ปี อาศัยอยู่ที่จังหวัดโอกินาวา ทางภาคใต้ของประเทศ

นักท่องเยวที่พระราชวังอิมพิเรียลในกรุงโตเกียว

เจ้าหน้าที่เผยว่า ชายผู้นี้ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ และก่อนการเสียชีวิตเขามีอาการป่วยเรื้อรังมาแล้ว จากนั้นจึงเสียชีวิตจากไวรัสเอ เอช 1 เอ็น 1 หลังจากเกิดอาการแทรกซ้อน

จิจิเพรสรายงานว่า ชายคนนี้อายุ 57 ปี เคยมีอาการป่วยโรคไตเรื้อรัง รวมทั้งเคยมีอาการไตล้มเหลวและหัวใจหยุดเต้นมาแล้ว

ญี่ปุ่นยืนยันเมื่อเดือนที่แล้วว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ประมาณ 5,000 คน ท่ามกลางความหวั่นเกรงว่าการแพร่ระบาดจะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเมืองโอซากาและโกเบ ขณะที่ชายคนนี้เป็นชาวญี่ปุ่นคนแรกที่เสียชีวิต

ที่มา: http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000092872