ลิงค์ผู้สนับสนุน

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

"ธีรภัทร์ แย้มศรี" หรือ "หมู" ดาราหนังสามชุกโล่ง หมอระบุแค่ไข้หวัดธรรมดา

วันนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายธรรศกร แย้มศรี อายุ 40 ปี พานายธีรภัทร์ หรือหมู แย้มศรี อายุ 17 ปี นักเรียนโรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย จ.สุพรรณบุรี ดารานำภาพยนตร์เรื่องสามชุก ลูกชาย ส่ง รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี เพื่อให้แพทย์ตรวจ เนื่องจากน้องหมูมีอาการปวดศีรษะ มีไข้ และไอ เกรงว่าจะเป็นไข้หวัด 2009

นพ. ชัชรินทร์ ปิ่นสุวรรณ ผอ.รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช เปิดเผยว่าทีมแพทย์พยาบาลได้วัดไข้น้องหมูได้ 38 องศาถือว่ามีไข้เล็กน้อย แต่อาการทั่วไปปกติ เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา เบื้องต้นจึงรักษาตามอาการและสามารถให้กลับบ้านได้ อย่างไรก็ตามถ้าภายใน 1-3 วันอาการยังไม่ดีขึ้นให้รีบมาพบแพทย์ทันที ด้านดารานำหนังสามชุกกล่าวว่ามีอาการไอ เจ็บคอ มา 2 วัน แต่ไม่ได้ไปหาหมอเนื่องจากติดสอบ แต่วันนี้มีอาการไม่ค่อยดีจึงให้พ่อพาไปหาหมอแต่ก็โล่งใจที่หมอบอกว่าเป็น แค่ไข้หวัดธรรมดา

สำหรับ หมู-ธีรภัทร์ เป็นหนึ่งในนักแสดงนำภาพยนตร์เรื่องสามชุก ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตที่กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 6 ส.ค. นี้ ผลงานการกำกับของปื๊ด-ธนิตย์ จิตนุกุล ผู้กำกับภาพยนตร์แถวหน้าของวงการภาพยนตร์ไทย โดยรับบทเป็นวาล เด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลายที่ตกอยู่ในวังวนของยาบ้าเพราะต้องการทำงานพิเศษ ได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่เหน็ดเหนื่อยเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระหนี้สินของแม่แต่ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้ต้องถลำลึกเข้าไปในวังวนของการเสพยาบ้าที่เพิ่มมากขึ้นทุกที

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/ent/24126

สาธารณสุขจังหวัดตรัง ระบุช่วงตรังเกมส์ จะมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 มากที่สุด

สสจ.ตรัง เผย ช่วงตรังเกมส์ เดือน ก.ย. นี้ จะเป็นช่วงที่ จ.ตรัง จะมีการระบาดของโรคไข้หวัด 09 มากที่สุด วันเดียวนี้ (4 ส.ค.) เด็กร.ร.เอกชนดังติดหวัดกว่า 100 ผู้บริหารต้องปิดโรงเรียน ผู้ว่าฯสั่งเรียกประชุมด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (4 ส.ค.) นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เรียกประชุมคณะกรรมการศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิด เอ เช1 เอ็น 1 เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ในพื้นที่ จ.ตรัง รวมไปถึงมาตรการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ในที่ประชุม นพ.สาธิต ไผ่ประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ตรังโดยกล่าวถึงสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ข้อมูลล่าสุด พบผู้ป่วย ยืนยันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ ใหม่ รวม 97 ราย แยกออกเป็นนอกเขต จ.ตรัง 14 ราย ในเขต จ.ตรัง 83 ราย แบ่งเป็นเพศชาย 54 ราย เพศหญิง 43 ราย อายุระหว่าง 1-54 ปี แต่ไม่พบรายงานผู้เสียชีวิต ร้อยละ 80 ผู้ป่วยเป็นเด็กนักเรียน คาดว่าในเดือน ก.ย. นี้ จะเป็นช่วงที่ จ.ตรัง จะมีการระบาดของโรคมากที่สุด โดยจะตรงกับช่วงการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 38 ตรังเกมส์

นพ.สาธิต กล่าวต่อว่า ในส่วนของการเตรียมการและการควบคุมโรค ขณะนี้ ได้มีการจ่ายยาต้านไวรัสไปทำการสต๊อกเอาไว้ที่ โรงพยาบาลตรัง แล้วจำนวน 10,300 เม็ด ตามโรงพยาบาลชุมชนแห่งละ 600 เม็ด และมีสต๊อกเอาไว้ที่ สสจ.ตรัง อีก 6,000 เม็ด กรณีเมื่อมีการจ่ายยาให้กับผู้ป่วย ก็จะมีการรายงานการใช้ยาไปยังกระทรวงสาธารณสุข จากนั้น กระทรวงสาธารณสุขจะส่งยามาให้เพิ่มเติม

ผู้ว่าราชการจังหวัด ตรัง กล่าวว่า ได้เน้นย้ำ เกี่ยวกับมาตรการเพื่อขอความร่วมมือไปยังสถาบันการศึกษาและโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งสถานบันเทิงต่างๆ เพราะสถานที่เหล่านี้ล้วนเอื้อต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี ต้องมีการทำความเข้าใจให้ความรู้กับสถานศึกษา แนวทางการปฏิบัติตัว รวมไปถึงมาตรการป้องกันต่างๆ วิธีการที่ดีที่สุด คือการส่งเสริมพฤติกรรมการป้องกันโรคด้วยตนเอง

ผู้สื่อข่าวรายงาน ด้วยว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน โรงเรียนบูรณรำลึก โรงเรียนเอกชนรายใหญ่ที่สุดในจ.ตรัง มีนักเรียน ประมาณ 3,200 คน ประกาศปิดเรียน เฉพาะชั้นประถม 1-6 มีนักเรียนประมาณ 1,000 คน ภายหลังขอคำแนะนำจากทางเจ้าหน้าที่สสจ.ตรัง โดย นพ.สาธิต ไผ่ประเสริฐ สสจ.ตรัง กล่าวว่า ตามที่ทางผู้บริหารโรงเรียนบูรณรำลึก ได้มาขอคำปรึกษา ในการป้องกันการระบาดของโรคหากพบว่ามีนักเรียน ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้ให้คำแนะนำไป ตามหลักการแพทย์ การสาธารณสุข เพื่อป้องกันโรค การทำความสะอาดห้องเรียน โรงเรียน การปิดการเรียนการสอน เป็นช่องทางหนึ่ง ที่จะหยุดการระบาดของโรค และทางโรงเรียนก็ได้ปิดการเรียนการสอนเฉพาะนักเรียนชั้นประถมแล้ววันนี้ ที่พบว่ามีเด็กป่วยและไม่มาเรียน ตัวเลขล่าสุด ได้รับรายงาน พบว่า มีผู้ป่วยไข้หวัด 2009 ในพื้นที่ จ.ตรัง ที่เข้ารับการรักษากับแพทย์แล้ว 80 คน และมีผู้ป่วยร้อยละ 80 เป็นเด็ก ยังไม่มีผู้เสียชีวิต

ด้านนายเทิดศักดิ์ ตรีรัตนพันธ์ ผู้บริหารโรงเรียนบูรณะรำลึก กล่าวว่า ในวันนี้ทางโรงเรียนได้หยุดการเรียนการสอน เฉพาะนักเรียนชั้นประถม 1-6 มีนักเรียนประมาณ 1,000 คน ระหว่างวันที่ 4-7 ส.ค. นี้ โรงเรียนมีนักเรียนทั้งหมดประมาณ 3,200 คน สาเหตุที่ปิดเฉพาะชั้นประถม ก็เพราะพบว่า มีเด็กไม่สบาย มาเรียนไม่ได้ ประมาณ 100 กว่าคน ไม่ทราบแน่ชัดว่าที่ป่วยจริงเท่าใด ตนเอง ได้ขอคำแนะนำจากนายแพทย์สาธารณสุขและแพทย์มาตลอด ประกอบกับประชุมครูและผู้ปกครองบางส่วนก็มีความเห็นปิดเฉพาะชั้นประถมไปก่อน จากการคัดกรองเด็กในแต่ละวันนั้น นักเรียนชั้นประถม มีอาการป่วย ไข้ก็ให้ลาพักนอนที่บ้านหรือไปพบแพทย์ ส่วนนักเรียนระดับ อนุบาลและมัธยม กลับไม่พบว่ามีเด็กป่วยหรือหยุดเรียน ส่วนการทำความสะอาด โรงเรียนนั้น ทางโรงเรียน ดูแลเรื่องนี้เป็นอย่างดี คือทำความสะอาดตามปกติตาม สุขลักษณะ ยังไม่จำเป็นต้องหยุดเรียนเพื่อทำความสะอาด โรงเรียนมีมาตรการรักษาความสะอาดภายในโรงเรียนอยู่แล้ว ให้ผู้ปกครองและบุคคลทั่วไปสบายใจได้ ข่าวลือที่ออกมาว่ามีเด็กนักเรียนเสียชีวิตก็ไม่เป็นความจริง เพราะตนเองและครูตรวจสอบข้อมูลกับทางโรงพยาบาลและสาธารณสุขตลอดและต่อเนื่อง ขณะเดียวกันโรงเรียนหลายแห่งตื่นตัวในเรื่องนี้ ที่จะป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ พบว่าโรงเรียนในตัวเมืองมีเด็ก จำนวนมากจะมีการแพร่ระบาดของโรค แต่ในชนบทยังไม่ว่ามีการะบาดของโรค

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/region/24161

พ่อเฒ่ากลุ่มเสี่ยงไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 ฉีดวัคซีน กลับบ้าน 2 วัน สิ้นใจ

ลูกชายร้องพ่อวัย 66 ปี ทางจังหวัดแจ้งว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ให้ไปฉีดวัคซีนป้องกันพร้อมกับคนแก่ในหมู่บ้าน กลับมาได้ 2 วันก็หน้ามืดหัวใจสั่น ต้องนำส่ง รพ.ก่อนสิ้นใจ..

วานนี้ (4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 95 บ้านเชียงเครือ หมู่ 6 ต.กระจาย อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีข่าวว่า มีผู้เสียชีวิตหลังไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เมื่อไปถึงพบชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังช่วยกันจัดสถานที่เพื่อจัดงานศพของนาย สว่าง วงศ์อินตา อายุ 66 ปีเจ้าของบ้าน ท่ามกลางความเศร้าสลดของญาติและครอบครัว

นายจิตรกร วงศ์อินตา อายุ 40 ปี ลูกชายของผู้ตาย เล่าว่า เมื่อประมาณวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา นายสว่าง ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านว่า มีรายชื่อจากทางจังหวัดระบุว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ให้ไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่ รพ.ป่าติ้ว เมื่อรับแจ้งแล้ว ในวันที่ 21 ก.ค. นายสว่าง พร้อมพวกที่มีชื่ออีก 24 คน ได้เดินทางไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่ รพ.ป่าติ้ว ซึ่งที่ผ่านมา นายสว่าง เคยป่วยเป็นโรคหัวใจรั่ว และความดันโลหิตสูง ต้องไปพบแพทย์อยู่เป็นประจำ

นายจิตรกร กล่าวต่อว่า หลังจากฉีดวัคซีนมาเพียง 2 วัน คือ วันที่ 24 ก.ค. นายสว่าง ก็มีอาการหน้ามืด หัวใจสั่นแล้วล้มลง ญาติต้องรีบนำส่ง รพ.ป่าติ้ว อีกครั้ง แต่ รพ.ป่าติ้ว ตรวจดูอาการว่าหนักมากจึงไม่รับ ญาติจึงนำส่งโรงพยาบาลเอกชน ในตัวเมืองยโสธร ซึ่งตนและครอบครัวต้องหมดค่าใช้จ่ายไปกว่า 100,000 บาท แต่ก็ไม่อาจยื้อชีวิตของนายสว่างได้ เช้าตรู่ของวันที่ 4 ส.ค. นายสว่าง ก็สิ้นใจ สร้างความเศร้าสลดให้แก่ญาติและครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง

" เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครอบครัวของผมในครั้งนี้ อยากวิงวอนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบและเกี่ยวข้อง ได้ให้ความช่วยเหลือด้วย" นายจิตรกร กล่าวด้วยความเสียใจ

นอกจากนี้ นายจิตรกร ยังตั้งข้อสังเกตว่า มีผู้สูงอายุในหมู่บ้านที่ไปรับการฉีดวัคซีนพร้อมกันกับนายสว่าง ที่ รพ.ป่าติ้ว อาทิ นายทองคำ หอมหวล อายุ 73 ปี นางวันทอง หอมหวล อายุ 66 ปี นายบุญเดช วงศ์อินตา อายุ 65 ปี น้องชายของนายสว่าง หลังจากฉีดวัคซีนแล้ว ต่างก็มีอาการ เวียนศีรษะ หน้ามืด หัวใจสั่น เหมือนกันทุกราย ซึ่งทุกคนต่างบอกตรงกันว่าก่อนที่หมอจะฉีดวัคซีนให้ ไม่มีการตรวจเช็คร่างกายของผู้ป่วยก่อนเลยแม้แต่รายเดียว

อย่างไร ก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องนี้ไปยัง นพ.เอกวิทย์ เรืองไชยวุฒิ ผู้อำนวยการ รพ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ซึ่งกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ยังไม่ได้ตรวจเช็คผลหลังฉีดยาไปแล้ว เพราะเป็นยาใหม่"

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/special/24235