ลิงค์ผู้สนับสนุน

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เด็กสาวบราซิลวัย 15 ป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ 2009 เสียชีวิตกลางอากาศขณะเดินทางจากสหรัฐฯ

คมชัดลึก :เด็กสาวบราซิลวัย 15 ปี ผู้มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ เสียชีวิตกลางอากาศขณะเดินทางจากสหรัฐฯกลับประเทศ

(3ส.ค.) สำนักข่าว"เอสตาดาว"ของทางการบราซิลรายงานว่า เด็กสาวชาวบราซิลวัย 15 ปีชื่อ จ๊าคเกอลีน รูอัส ผู้มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ ได้เสียชีวิตบนเครื่องบินโดยสารของสายการบิน"โคปาแอร์ ไลน์ " ขณะกำลังเดินทางกลับจากเมืองออร์ลันโด รัฐฟลอริด้า เพื่อไปยังบ้านที่นครเซา เปาโล หลังร่วมกรุ๊ปทัวร์ไปเที่ยวที่ดิสนีย์แลนด์ในรัฐฟลอริด้าของสหรัฐฯ และเธอเริ่มมีอาการป่วยเพียงไม่กี่วันก่อนขึ้นเครื่องบินกลับ แต่ผลการตรวจสอบโดยคณะแพทย์ในสหรัฐฯระบุว่า เธอไม่ได้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ 2009

รายงานข่าวระบุว่าเธอบ่นว่ารู้สึกไม่สบายมากขณะอยู่บนเครื่องบินก่อนที่ เธอจะหมดสติไป แพทย์สอวคนบนเครื่องบินพยายามช่วยชีวิตเธอแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ขณะที่บริษัททัวร์"เตีย ออกุสต้าตูริสโม "กล่าวว่า รูอัสกับสมาชิกคนอื่นในกรุ๊ปทัวร์จำนวนรวม 30 คนได้เดินทางมาท่องเที่ยวนาน 12
วัน ที่สหรัฐฯ โดยเริ่มออกเดินทางในวันที่ 19 กรกฎาคม และเธอเริ่มมีอาการป่วยในวันที่ 30 มิถุนายนก่อนจะเข้าโรงพยาบาล แต่ผลการตรวจสอบในห้องแลปยืนยันว่าเธอไม่ได้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 เธอจึงได้รับการปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาล

ที่มา: http://www.komchadluek.net/detail/20090803/22825/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%9409%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8.html

"ทักษิณ" โฟนอินวิทยุเสื้อแดง-แนะนำกินน้ำป๋วยกั๊กแก้ไข้หวัดใหญ่ 2009

คมชัดลึก : มท.1 สั่ง “ กำนัน - ผู้ใหญ่บ้าน- อปท. ” ทำความเข้าใจปชช. เสื้อแดงล่าชื่อถวายฎีกาขัดกฎหมายหวั่นระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท หวังคนในชาติสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ ด้าน"ปู่ชัย"พร้อมร่วมมือรัฐบาลประสานประชาชนให้เข้าใจ "ทักษิณ"โผล่โฟนอินวิทยุคนเสื้อแดงในเชียงใหม่ ชี้รัฐบาลลิดรอนสิทธิปชช.ถวายฎีกา แนะกินน้ำป๋วยกั๊กที่ใช้ต้มในก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อยแก้หวัด 2009 ได้

ที่รัฐสภา วันที่ 2 ส.ค. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เป็นประธานมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทยให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 700 คน ตามโครงการสัมมนาเรื่อง “การเสริมสร้างและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจทางการเมืองการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแก่ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นและผู้ปกครองท้องที่ ”

นายชวรัตน์ กล่าวว่า ขอให้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยกันรณรงค์ในการธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันสำคัญของชาติ โดยจะต้องไม่ยอมให้กลุ่มบุคคลใดไปกระทำหรือก้าวล่วงหรือแอบอ้างทำให้เกิด ความสูญเสียหรือความเสียหายต่อสถาบันของชาติอย่างเด็ดขาด

“ขณะนี้มีกลุ่มคนที่พยายามรวบรวมรายชื่อของพี่น้องประชาชนเพื่อร่วมถวายฎีกาขอ พระราชทานอภัยโทษ ต้องขอชี้แจงว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นไปตามกระบวนการวิธีทางกฎหมายมาตรา 259 ถึง 261 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ.2548 ต้องขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ช่วยอธิบายทำความเข้าใจกับประชาชน เพราะไม่ต้องการเห็นการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวไปทำให้เกิดความหมิ่นเหม่ ต่อการสร้างความระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคลบาท ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราคนไทยยอมไม่ได้ ” รมว.มหาดไทย ระบุ

นายชวรัตน์ กล่าวต่อว่า ในการสร้างความสามัคคีความสมานฉันท์ของพี่น้องประชาชน ทุกวันนี้สังคมของเรากำลังปรับเปลี่ยนไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีบุคคลสวนกระแส ก่อความวุ่นวายแตกแยกให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง สร้างความขัดแย้งขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของภาครัฐ ปัญหาดังกล่าวได้ลุกลามออกไปในหลายพื้นที่ หากไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็วจะเป็นอุปสรรคส่งผลต่อภาพลักษณ์และการพัฒนา ประเทศเป็นอย่างมาก

“ ผมขอฝากทุกท่านที่เป็นผู้นำในระดับพื้นที่ราษฎรให้ความเคารพเชื่อถือศรัทธา ขอให้เป็นผู้นำรณรงค์สนับสนุนให้ราษฎรในหมู่บ้าน ตำบล ประพฤติปฏิบัติตนตามหลักคุณธรรม จริยธรรมมีศีลธรรมความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อก่อให้เกิดความสมานฉันท์สามัคคี ปรองดองความสงบสุขขึ้นในชาติ ” รมว.มหาดไทย กล่าว

ด้านนาย ชัย ชิดชอบ ประธานรัฐภา กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมนำรายชื่อยื่นถวายฎีกาใน วันที่ 7 สิงหาคมนี้ว่า คงไม่ต้องย้ำอะไร เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพของแต่ละคน ในส่วนของรัฐสภาพร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการทำความเข้าใจกับประชาชน แต่ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ประสานมา

ส่วนการที่กลุ่มคนเสื้อแดงโจมตี นาย เนวิน ชิดชอบ บุตรชายว่า อยู่เบื้องหลังคัดค้านฎีกา เพื่อต่อรองคดีกล้ายางที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะตัดสินในวันที่ 17 สิงหาคมนี้นั้น นายชัย กล่าวว่า นายเนวิน พร้อมยอมรับกระบวนการตัดสินของศาล เพราะเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม การที่ถูกโยงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องต่างๆ ก็ ไม่กระทบต่อภาพลักษณ์ แม้ว่า จะถูกหยิบยกไปโจมตีอย่างต่อเนื่องก็ตาม

"ทักษิณ"โฟนอินวิทยุเสื้อแดง-แนะกินน้ำป๋วยกั๊กแก้หวัด09

เมื่อเวลา 13.25 น. วันที่ 2 ส.ค. 2552 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินเข้ามาพูดคุยทางสถานีวิทยุชุมชน เอฟเอ็ม 92.50 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งเป็นสถานีวิทยุของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือกลุ่มคนเสื้อแดงที่ให้การสนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ สถานีตั้งอยู่ที่โรงแรมวโรรส แกรนด์พาเลซ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมีนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เป็นผู้ดำเนินรายการในช่วงดังกล่าว

ทั้งนี้ช่วงแรกของการโฟนอิน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวเป็นภาษาคำเมือง ขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ที่ยังให้การสนับสนุนและยังรักคิดถึงตนเอง รวมทั้งได้เล่าให้ฟังว่า มีหมอดูคนหนึ่งในภาคอีสานทักว่าในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และได้แก้ไขปัญหาไข้วหวัดนก ตนเองสั่งฆ่าไก่เป็นจำนวนมาก หมอดูคนดังกล่าวจึงไปซื้อไก่จากโรงเชือดไปปล่อยให้

จากนั้นนายเพชรวรรต กล่าวว่า มีรายชื่อถวายฎีกาที่จะยื่นยังตกค้างอยู่ที่สถานีอีกจำนวนมาก จะรีบเอาไปฝากให้กับรายการความจริง

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ถ้าส่งไปรษณีย์ไทยหายแน่นอน หรือถ้าฝากผ่านนายอำเภอก็หายแแน่นอน ทุกวันนี้คนกลุ่มนี้มีการริดลอนสิทธิประชาชนทุกอย่าง โดยใช้กระบวนการระบบราชการที่ริดรอนสิทธิประชาชน ยิ่งเรียกว่าประชาธิปไตยมากเท่าไหร่ รัฐบาลก็ริดลอนสิทธิประชาชนมากเท่านั้น มักต้องย้ำว่าเราต้องเรียกร้องมากขึ้น คิดอะไรก็คิดแบบโง่ๆ ทำอะไรก็คิดด้วยอารมณ์โกรธ คิดแบบไม่มีสติ คิดด้วยอารมณ์อยากจะต่อต้าน ไม่คิดว่าหลักการของประเทศอยู่ที่ไหน ถ้าปล่อยให้เป็นไปตามหลักการประเทศจะไปไกลมากกว่านี้ และเขาเองจะได้รับศรัทธามากกว่านี้ แต่นี้กลับเติมความน่าเกลียดน่าชังให้ตัวเองมากขึ้นทุกวัน ทั้งที่มาจากการเลือกตั้ง

"ปัจจุบันถ้าตัวเองบอกทางซ้าย เขาก็จะไปทางขวา ถ้าบอกไปทางขวา ก็จะไปทางซ้าย ไม่คิดตามหลักการ ไม่มีหลักไม่มีเกณฑ์ คิดแบบเด็กๆ เป็นเด็กจริงๆ "พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อไปถึงการแก้ปัญหาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า เชื้อไข้หวัด 2009 เกิดขึ้นที่ประเทศเม็กซิโก แต่ดันมาเติบโตที่ประเทศไทยได้อย่างไรทั้งที่อยู่คนละขั้วโลก เวลาเชื้อเดินทางผ่านประเทศไหนทุกประเทศจะจัดการหมด แต่บ้านเรากลับอุ้มไว้ ถ้ามันเติบโตอย่างหนัก คิดว่า WHO ต้องย้ายมาอยู่ประเทศไทยได้แล้ว เพราะประเทศไทยทำอะไรไม่เป็น

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันตนกินน้ำป๋วยกั๊กที่ใช้ต้มในก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อย เพราะใส่ดอกป๋วยกั๊กเป็นดอกไม้แห้งจีน เอาไว้ใส่น้ำต้มเนื้อเปื่อยซึ่งยาทามินฟูลก็สะกัดจากดอกป๋วยกั๊ก และยาทามินฟูลเอาไว้แก้ไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่ 2009 ถ้ากินน้ำป๋วยกั๊กแล้วจะแก้ได้ แต่ถ้าไม่กินเนื้อก็กินพะโล้แทนได้ กินน้ำป๋วยกั๊กแต่ไม่ต้องกินตลอดเวลา กินที่ละน้อย ถ้ากินแล้วจะช่วยให้มีภูมิคุ้มกัน

ที่มา: http://www.komchadluek.net/detail/20090802/22727/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B4%E0%B8%93%E0%B9%82%E0%B8%9F%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%9409.html

ทำความสะอาดพระราชวังบัคกิ้งแฮมในกรุงลอนดอนของอังกฤษครั้งใหญ่ หลังพบผู้ติดเชื้อหวัด 2009

พระราชวังบัคกิ้งแฮม ในกรุงลอนดอน ของอังกฤษ วางมาตรการ อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ของเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 หลังจากพบผู้ติดเชื้อ 2 คน ในพระราชวัง

สำนักข่าวเดลี่เอ็กเพรส รายงานอ้างโฆษกประจำพระราชวังบัคกิ้งแฮม ระบุว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงมีคำสั่งให้วางมาตรการป้องกัน และทำความสะอาดพระราชวังบัคกิ้งแฮม อันเป็นสถานที่ประทับ อย่างเป็นทางการ ในกรุงลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษ หลังจากพบเจ้าหน้าที่ 2 คน ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009

โดยมาตรการดังกล่าว จะเฝ้าระวังในด้านต่างๆ ที่อยู่ในข่ายเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ นอกจากนี้ ยังต้องปฏิบัติตามคำแนะนำ จากหน่วยให้บริการทางสาธารณสุขของอังกฤษ (NHS) อย่างเคร่งครัด เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งมาตรการเหล่านี้ ยังรวมถึงที่พระราชวังวินเซอร์ ซึ่งเป็นพระราชวังที่สมเด็จพระราชินีนาถ ทรงโปรดปราน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ที่ 2 ทรงประทับที่พระราชวังบัลมอรัล ใกล้กับเมืองอเบอร์ดีน ในสก็อตแลนด์ ซึ่งเป็นพระราชฐานส่วนพระองค์ ของสมเด็จพระราชินีนาถ

ส่วนที่ประเทศมาเลเซีย กระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย ออกแถลงการณ์ ระบุว่า เด็กชายวัย 11 ขวบ เสียชีวิต วานนี้ (2 ส.ค.) และเด็กหญิงวัย 10 ขวบ เสียชีวิต เมื่อวันศุกร์ที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา จากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าว ในมาเลเซีย เพิ่มขึ้นเป็น 6 คน ขณะที่ทางการสั่งเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ ในโรงเรียน ที่เด็กสองคนดังกล่าว เรียนอยู่ด้วย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ในหมู่นักเรียน

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/oversea/23842