ลิงค์ผู้สนับสนุน

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ปัญหาการระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 ปัจจัยลบอันดับ1ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจทรรศนะประชาชนต่อการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,200 คน วันที่ 17-22 ก.ค.52 ว่าปัญหาการระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 กลายเป็นปัจจัยลบอันดับหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งด้านท่องเที่ยวและการบริโภคประชาชน โดยคาดว่าหากการระบาดเกิดขึ้นต่อเนื่องในไตรมาสสาม จะทำให้รายได้ท่องเที่ยวและการบริโภคลดลง 30,000-60,000 ล้านบาท และทำให้จีดีพีไตรมาสสาม -3.5% ถึง -4.5% ขณะที่ จีดีพีทั้งปีเหลือ -3.8% ถึง -4.8% แต่หากการระบาดยังยืดเยื้อถึงไตรมาสสี่ จะกระทบต่อรายได้การท่องเที่ยวและการบริโภคลดลง 60,000-120,000 ล้านบาท ทำให้จีดีพีไตรมาสสี่ -0.5% ถึง -1% และจีดีพีทั้งปีติด -4% ถึง -5.5%

ทั้งนี้การระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 ส่งผลลบต่อเศรษฐกิจอย่างมีนัย เพราะตอนนี้คนกลัวติดไข้หวัดจนไม่กล้าเดินทางออกไปใช้จ่าย ท่องเที่ยว ชอปปิง กินอาหารนอกบ้านทั้งกลางวันกลางคืน ทำให้ภาคธุรกิจจะขายสินค้าและบริการได้น้อยลง จำเป็นต้องจัดโปรโมชั่นมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ซึ่งจุดนี้จะกลายเป็นปัจจัยลบสำคัญต่อการสำรวจดัชนีผู้บริโภคของเดือน ก.ค. รวมถึงเงินเฟ้อให้ติดลบได้นานกว่าที่คาดหมายด้วย

“ต้องยอมรับว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีผลกระทบทางจิตวิทยา และทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดว่าจะฟื้นตัว ไตรมาสสี่ เพราะทำให้การบริโภคและกิจกรรมบันเทิงลดลง และยิ่งมีคนติดเชื้อและเสียชีวิตมากขึ้น ประชาชนก็ยิ่งมีความกังวล ซึ่งสะท้อนว่าคนไทยยัง ไม่มั่นใจต่อมาตรการป้องกันไข้หวัดของรัฐที่ออกมา เพราะแนวโน้มการระบาดในไทยยังเพิ่มสูง จากต้นทุนเดือน ก.ค.ที่มีสัดส่วนผู้เสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้อเพียง 0.4% แต่ขณะนี้เพิ่มเป็น 0.65% และยังมีคนติดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

ดังนั้นสิ่งสำคัญที่รัฐต้องเร่งทำคือการป้องกันดูแลให้ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลดลง ควบคู่กับการบริหารเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา ภายใต้การดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่พูดเพียงว่าให้เชื่อมั่นเถอะ โดยถ้ารัฐเรียกความเชื่อมั่นประชาชน กลับมาได้ แม้การระบาดยังมีอยู่แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจน่าจะคลายความรุนแรงลงได้

นางยาใจ ชูวิชา ประธานคณะจัดทำการ สำรวจความคิดเห็นประเด็นเศรษฐกิจ มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย กล่าวว่า ผลสำรวจระบุว่า ประชาชน 51.4% รู้สึกกังวลเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่ 2009 กังวลมากที่สุด 15.7% ปานกลาง 25.1% น้อย 6.1% น้อยที่สุด 1.2% ไม่กังวล 0.5% โดยให้คะแนนความกังวล 3.75 คะแนน จากเต็ม 5 คะแนน ซึ่งทำให้ผู้ตอบ 42.1% ระบุว่าจะมีการใช้จ่ายน้อยลง ส่วนอีก 43.6% ไม่เปลี่ยนแปลง และเพิ่มขึ้นเพียง 14.3% โดยผลสำรวจ 28.8% ระบุว่า การระบาดไข้หวัดคือปัจจัยลบอันดับหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจประเทศแย่ รองลงมาเป็นความไม่มั่นใจต่อเศรษฐกิจไทย 19.4% ราคาสินค้าสูงขึ้น 16.5% และราคาน้ำมันแพง 11% นอกจากนี้การระบาดของไข้หวัดยังเป็นปัจจัยลบสูงสุดถึง 31.4% ที่ทำให้การบริโภคลดลง มากกว่าภาวะเศรษฐกิจแย่ และราคาสินค้าสูงขึ้น

“ผลสำรวจสะท้อนว่าปัญหาไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคของคน ทำให้การเข้าชมภาพยนตร์ การซื้อสินค้านอกบ้านตามแหล่งชุมชน การชมคอนเสิร์ต การแสดงที่มีคนมาก และระยะเวลาในการเลือกซื้อสินค้าลดลง”.

ที่มา: http://dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=310&contentID=10020

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น