ลิงค์ผู้สนับสนุน

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แห่กินสมุนไพรป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยเฉพาะใบพาโหม แถมฟ้าทะลายโจรราคาพุ่ง

เผยฟ้าทะลายโจร ในกทม.ขาดตลาดอย่างหนัก เมืองคอนขาย ก.ก.ละ 120-150 บาท ปัจจุบันขายก.ก.ละ 1,000 บาทขึ้นไป ทำให้หันมาใช้ใบ"ตูดหมูตูดหมา" หรือใบกระพังโหม ที่ คนปักษ์ใต้มักเรียกว่า"ใบพาโหม"

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (29 ก.ค.) ว่า ภายหลังประชาชนตื่นตัวในการป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แห่เสาะหาสมุนไพรไทยโดยเฉพาะ "ฟ้าทะลายโจร”" มาบริโภคกันอย่างกว้างขวาง แม้ฟ้าทะลายโจรจะมีรสขมเป็นอย่างมากก็ตาม เมื่อกระทรวงสาธารณสุขออกมาระบุว่าการป้องกันการติดเชื้อหวัดมรณะที่ดี ที่สุดคือการทำให้สร้างกายมีสุขภาพแข็งแรง บริโภคอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะสมุนไพรไทยมีมีสรรพคุณแก้ไข้หวัด ลดไข้ แก้ไอ ทำให้ประชาชนในจังหวัดนครศรีธรรมราชแห่เสาะหาสมุนไพรไทยหลายชนิดมาบริโภคกัน ในครัวเรือน และพกพาติดตัวไปบริโภคนอกบ้านตามสะดวก แม้แต่ตามร้านขายน้ำชา กาแฟริมถนนในตอนกลางคืนหลายร้านก็นำเอาสมุนไพรไทยมาไว้บริการลูกค้าด้วย

นอกจากฟ้าทะลายโจรแล้วสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ก็ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางเช่นกัน อาทิ พืชกระท่อม ขิง ข่า กระชาย พริกไทยดำ แต่ที่ได้รับความนิยมมากในลำดับต้น ๆ คือ ใบ"ตูดหมูตูดหมา" หรือใบกระพังโหม แต่ในจ.นครศรีธรรมราชและคนปักษ์ใต้มักเรียกว่า"ใบพาโหม" ปกติคนปักษ์มักจะใช้ใบพาโหมมาทำเป็นผักเหนาะ หรือหั่นเป็นฝอยผสมกับส่วนผสมของข้าวยำเป็นไม้เถาเนื้ออ่อนเลื้อยเกี่ยวพัน กับใบอื่น เถาว์จะอยู่รวมกันเป็นพุ่ม พาโหมเถาว์มี 2 ชนิด แต่ละชนิดแตกต่างกันไป ลักษณะใบ ชนิดใบเรียวแหลม ข้อใบจะห่างกัน ใบแตกออกมาเป็นคู่เรียก "ตูดหมู" ชนิดใบกว้างรี ปลายแหลมใบแตกออกมาเป็นคู่ แต่ใบจะบางกว่าชนิดแรก ข้อใบแต่ละคู่อยู่ชนิดกัน เรียก "ตูดหมา" แต่มักจะเรียกรวม ๆ กันว่า "ตูดหมูตูดหมา" ส่วนดอกมีสีม่วงอมขาว มีขนาดเล็ก เป็นพวงออกจากโคนใบ ลักษณะผลเป็นช่อขนาดเท่าเมล็ดพริกไทย ออกจากช่อดอกที่ร่วงโรยไปแล้วยอด ส่วนที่ใช้เป็นอาหาร คือส่วน ยอดใบอ่อน ผล ดอก และมีรสชาติขมเจือมัน กลิ่นฉุน

นายสุชาติ สุขเกษม แพทย์แผนไทยที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนาม"หมอชิต" เจ้าของร้านสุชาติสมุนไพร เป็นร้านจำหน่ายยาสมุนไพรที่ใหญ่ที่สุดในตัวเมืองนครศรีธรรมราช มีร้านอยู่ 2 สาขา คือสาขาตลาดแม่สมจิตต์ ถนนยมราช และสาขาตลาดแขก ถนนกะโรม กล่าวว่า ประชาชนหันมาบริโภคสมุนไพรไทยหลายชนิดอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะที่นิยมมากที่สุดคือฟ้าทะลายโจร ทราบว่าในกรุงเทพมหานคร กำลังต้องการและขาดตลาดอย่างหนัก สำหรับที่ร้านของตนทั้ง 2 สาขา เมื่อก่อนขายราคา กิโลกรัมละ 120-150 บาท ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาขายหมดไปนับพันกิโลกรัม รวมทั้งที่บดเป็นผง หรือที่อัดเม็ด บรรจุแคปซูล ก็ขายดีมาก จนสินค้าที่ซื้อเก็บไว้ในร้านหมดไปอย่างรวดเร็ว

"เพิ่งมาทราบว่าร้านอื่น ๆ ขายกัน กิโลกรัมละ 1,000 บาทขึ้นไป เมื่อไปหาซื้อมาไว้ในร้านก็ค่อนข้างหายากและมีราคาสูงขึ้น หลายร้านที่ติดตามสถานการณ์หวัด 2009 ไม่ยอมขายโดยกักตุนไว้ขายในราคาสูง จึงต้องตระเวนออกรับซื้อฟ้าทะลายโจรสด ๆ จากชาวบ้านในชนบทห่างไกล สมุนไพรไทยชนิดอื่น ๆ ก็มีแนวโน้มได้รับความนิยมและขายดีกว่าเดิมหมายเท่าตัว เช่น ใบพาโหม กระชายดำ ขิง ข่า"นายสุชาติ กล่าว

นายสุชาติ กล่าวอีกว่า ใบพาโหม หรือตูดหมูตูดหมา เป็นสมุนไพรไทยสู้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อีกชนิดหนึ่ง กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้มีสรรพคุณ คือใช้เถาว์และใบมาตำคั้นเอาน้ำกิน ช่วยขับลมในท้อง แก้จุกเสียด ทั้งต้นแก้ตานร่วง ใบแก้พิษงู แก้ปวดฟัน แก้รำมะนาด รก ฝนหยอดตา แก้ตาซาง ตาแฉะตามัว

นอกจากฟ้าทะลายโจร ใบพาโหมแล้วยังมีสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งคือ "กำแพง 7 ชั้น" หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "หลุมนก" เป็นเถาว์วัลย์ขนาดใหญ่ที่ชอบขึ้นในป่าเขตร้อนชื้น หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ นำมาต้มกับน้ำมีสรพคุณแก้อาการร้อนใน และรักษาอาการป่วยเพศเลือด หรือที่เรียกว่า "ไข้ทับฤดู และฤดูทับไข้"ของสตรี เชื่อว่ามีสรรพคุณสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/special/22927

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น