เมื่อช่วงสายของวันนี้ (27 ส.ค.) ที่โรงแรมเฮอมิเทจรีสอร์ท และ สปา อ.เมืองนครราชสีมา นายแพทย์มงคล ณ สงขลา อดีต รมว.สาธารณสุข ประธานอนุกรรมการควบคุมป้องกัน และแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ( H1N1 ) 2009 กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมความร่วมมือเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ของไข้ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดฯ ว่า ในขณะนี้สถานการณ์ตามต่างจังหวัดในหลายพื้นที่ปรากฏว่าตัวเลขไปขึ้นในต่าง จังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขต จ.กาญจนบุรี เพชรบุรี และ ภาคเหนือ
นายแพทย์มงคล กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ตัวเลขในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล เริ่มลดลงหรือชะลอลงไป ฉะนั้น จะต้องปูพรหมในทุกพื้นที่ เพื่อจะให้ผู้บริหารในระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด ได้เตรียมการป้องกันเรื่องนี้ ตรงนี้ทางทีมงาน สสส. ทีมงาน สปสช. ประกันสุขภาพ และทีมงานกระทรวงฯ ทั้งหลายที่ผนึกกำลังร่วมกันกับทางมหาวิทยาลัยด้วย ที่จะพยายามระดมกันไปตามต่างจังหวัด เพื่อปลุกระดมให้กับทุกฝ่ายได้เอาเอกสาร ข้อมูลต่างๆในการที่จะดำเนินการควบคุมป้องกันเอาไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ให้ เต็มที่ ถ้าทุกคนร่วมกันไม่ว่าครอบครัว ชุมชน ในตำบล อำเภอ ทำอย่างจริงจัง คิดว่าสิ่งที่เริ่มผงกหัวขึ้นของตัวเลขในต่างจังหวัด คงจะเสมอหรือชะลอไป และในที่สุดคงจะสามารถทำให้ลดลงไปได้ และผ่านพ้นวิกฤติในช่วงหมดหน้าฝนต่อกับหน้าหนาว ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่กลัวมากที่สุดคือ ในช่วงอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ เพราะปกติเชื้อไวรัสจะเป็นในช่วงหน้าหนาว ถ้าสามารถจะผ่านปลายปีนี้ไปได้ก็ถือว่าปลอดภัยนายแพทย์มงคล กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ช่วงเปลี่ยนหน้าฝนไปหน้าหนาวประชาชนต้องดูแลตัวเองไม่ไปสัมผัสกับเชื้อ ไม่ว่าน้ำมูก น้ำลาย หรือ เสมหะ หรือเข้าไปอยู่ใกล้กับคนที่เป็นหวัด ตรงนี้ต้องป้องกัน ขณะเดียวกันต้องส่งเสริมสุขภาพของตัวเองให้ดีให้มีภูมิต้านทาน และถ้าใครป่วย ต้องแยกให้ถูกวิธีและชัดเจน และป้องกันกันอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า อัตราผู้เสียชีวิต และผู้ป่วยทั่วประเทศสะท้อนว่า วิ่งตามปัญหาหรือไม่ นายแพทย์มงคล กล่าวว่า อัตราการป่วย การตาย อย่าเอาเป็นเครื่องชี้วัด ทุกคนต้องเป็นเจ้าภาพในการดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัว และดูแลชุมชน โดยเฉพาะ อบต.ที่คิดว่ามีบทบาทที่สำคัญมาก ส่วนการผลิตวัคซีนดำเนินการมากว่า 2 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาสนใจ ตอนที่มีไข้หวัด 2009 ฉะนั้นทีมงาน ผู้เชี่ยวชาญของประเทศ มีความชำนาญในเรื่องนี้ค่อนข้างพร้อม เพียงแต่คอยเอาเชื้อตัวนี้เข้ามา เพื่อจะใช้ในการทำวัคซีน แต่ความรู้นี้ยังเป็นความรู้ใหม่ การทำวัคซีนอาจจะขัดข้อง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและองค์การอนามัยโลก กำลังแก้ปัญหาอยู่
นายแพทย์มงคล กล่าวอีกว่า ตนมั่นใจว่าปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า จะได้วัคซีนของเราเอง แต่การที่จะสั่งจองซื้อตรงนั้นตนเรียนว่า จองซื้อเท่านั้น เพราะยังไม่มีที่ไหนผลิตวัคซีนได้ ซึ่งทำเองเอาไว้ส่วนหนึ่ง แต่เผื่อผิดพลาดได้ไปจองซื้อของคนอื่นไว้ด้วย ถ้าหากว่าของเราเกิดมีปัญหา จะได้ใช้ของคนอื่น หรือถ้าของคนอื่นมีปัญหา ก็ไม่ต้องไปซื้อา เพราะเป็นการจองเท่านั้นเอง เหมือนกับเป็นการซื้ออาวุธสงครามมาเก็บเอาไว้ เพื่อจะสร้างความมั่นคงให้กับประเทศชาติ
นายแพทย์มงคล กล่าวด้วยว่า การทดสอบวัคซีนในคน หรือสัตว์ คงจะเป็นไปในระยะเวลาที่กำหนดไว้เดิม แต่การที่จะเอาออกมาใช้ต้องพยายามผลิตในต้นทุนต่ำกว่านี้ และผลผลิตสูงกว่านี้ ถ้าผลิตได้ต้องให้ครบที่จะใช้กับคนทุกคนได้จะดี แต่ขึ้นอยู่กับผลผลิตว่าจะได้มากน้อยแค่ไหน
ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/special/29063
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น