ลิงค์ผู้สนับสนุน

วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แพทย์ระบุ "หลวงพ่อคูณ" สงสัยอาพาธไข้หวัดใหญ่ 2009 อยู่กลุ่มเสี่ยงน่าห่วง-อาการหนักกว่าทุกครั้ง

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แพทย์ระบุ “หลวงพ่อคูณ” อาพาธต้องสงสัยไข้หวัด 2009 อยู่ในกลุ่มเสี่ยงน่าห่วงเหตุอายุมาก- มีโรคประจำตัวหลายอย่าง รอผลตรวจเลือดยืนยันใน 1-2 วันนี้ เผยให้ยาทามิฟลู และยาพ่นต้านไว้รัส ชี้อาการโดยรวมเริ่มดีขึ้นแต่ยังสับสนอยู่ สั่งลูกศิษย์สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เข้าใกล้เพื่อป้องกันติดเชื้อ แพทย์ระบุอาพาธครั้งนี้อาการหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกีรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังลูกศิษย์นำส่งรักษาที่โรงพยาบาลด้ายอาการเบลอ สับสน จำใครไม่ได้ เมื่อบ่ายวานนี้ (13 ส.ค.)

ล่าสุด วันนี้ (14 ส.ค.) อาการหลวงพ่อคูณเริ่มดีขึ้น แต่ยังคงสับสน แพทย์ให้น้ำเกลือเป็นกระปุกที่ 2 และให้ฉันยาปฏิชีวนะ โดยหลวงพ่อคูณตื่นจากจำวัดเมื่อเวลา 07.00 น. พยาบาลเข้าตรวจอาการไข้และวัดความดัน ก่อนให้หลวงพ่อทำกิจธุระส่วนตัว โดยหลวงพ่อคูณ ย้ำถามศิษย์ผู้ใกล้ชิดตลอดเวลาว่า “กูอยู่ที่ไหน”

ต่อมาเวลา 07.30 น. นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด แพทย์ประจำตัว พร้อมด้วย นพ.สุรินทร์ แซ่ตั้ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมประสาท และ นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอดและเวชบำบัดวิกฤติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้เข้าตรวจอาการของหลวงพ่อคูณอีกครั้ง ซึ่งหลวงพ่อคูณพยายามบอกคณะแพทย์ตลอดว่า “กูไม่เป็นอะไร จะตรวจทำไม”

นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้หลวงพ่อคูณถูกนำส่งมาโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาด้วยอาการสับสน จำใครไม่ได้ จึงนำหลวงพ่อมาตรวจระบบประสาท โดยแพทย์ได้ประเมินคาดว่าสาเหตุที่มีอาการดังกล่าวน่าจะมาจาก 2 ปัจจัย คือ เป็นเรื่องความสับสนที่พบได้ในผู้สูงอายุ และเป็นอาการเกิดจากการชัก จากนั้นได้นิมนต์หลวงพ่อจำวัดที่โรงพยาบาลเพื่อแพทย์จะได้เฝ้าดูอาการ

ปรากฏว่าประมาณ 19.00 น.เมื่อวานนี้ (13 ส.ค.) หลวงพ่อคูณมีไข้สูง หนาวสั่น จากการประเมินอาการไข้ น่าจะมาจาก 2 อย่าง คือ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด หรือ อาจจะเป็นการติดเชื้อไวรัส ซึ่งหากเป็นเชื้อไวรัส ก็คิดว่าน่าจะเป็นอาการของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เนื่องจากอาการอาพาธครั้งนี้ของหลวงพ่อคูณรุนแรงกว่าทุกครั้งที่เคยเป็น และขณะนี้มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ค่อนข้างมาก ที่ผ่านมาได้กำชับให้ลูกศิษย์ใส่หน้ากากอนามัยพร้อมให้ระวังเมื่อเข้าใกล้ หลวงพ่อ แต่ปัจจัยหนึ่งที่ไม่สามารถจะควบคุมได้คือ ลูกศิษย์ที่เดินทางมากราบนมัสการเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้หลวงพ่อคูณติดเชื้อได้

อีกทั้งก่อนหน้านี้หลวงพ่อคูณได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไปแล้ว ฉะนั้นจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แพทย์มั่นใจว่าหลวงพ่อคูณป่วยเป็นไข้หวัด ใหญ่ 2009

นพ.พินิศจัย กล่าวอีกว่า การรักษาของแพทย์ตั้งแต่เมื่อวานนี้ได้เริ่มให้การรักษาแบบผู้ป่วยไข้หวัด 2009 ด้วยการให้ยาโอเซลทามีเวียร์ และยาพ่นต้านไวรัส ซึ่งหลวงพ่ออยู่ในกลุ่มเสี่ยง เพราะเป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวหลายอย่าง

ด้าน นพ.สุรินทร์ แซ่ตั้ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมประสาท เปิดเผยถึงอาการทางสมองของหลวงพ่อคูณว่า เมื่อวานนี้ (13 ส.ค.) หลวงพ่อมีอาการสับสนมาก กระสับกระส่าย ยังหาสาเหตุของการเกิดการสับสนไม่ได้ เพราะผลการเอกซเรย์สมองโดยรวมปกติดี จนกระทั่งหลวงพ่อคูณมีไข้ จึงคิดว่าอาการสับสนดังกล่าวน่าจะมาจากอาการไข้ และเมื่อไข้ลดลงอาการเบลอ สับสนก็ดีขึ้น แต่ยังมีอาการหลงลืมบ้าง คือจำสถานที่ไม่ได้และยังคงย้ำถามลูกศิษย์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งดีกว่าเมื่อวานที่ไม่ได้สนใจตรงนี้เลย ส่วนลูกศิษย์ก็เริ่มจำหน้าได้แต่ยังจำชื่อไม่ได้

ขณะที่ นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอดและเวชบำบัดวิกฤติ เปิดเผยว่า จากการเจาะเลือดไปตรวจเบื้องต้น คิดว่าน่าจะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ค่อนข้างสูงตอนนี้รอผลยืนยันจากห้องปฏิบัติการที่กรุงเทพฯ คาดว่าจะรู้ผลภายใน 1-2 วันนี้ อาการเบื้องต้นหลวงพ่อคูณมีอาการไข้สูง หอบเหนื่อย และไอ

ล่าสุด ตรวจร่างกายเมื่อเช้านี้พบมีเสลดอยู่ในเสมหะในปอดค่อนข้างมาก แพทย์ได้ให้การรักษาโดยให้ยาทามิฟลู หลังให้ยาแล้วคนไข้ให้การตอบสนองค่อนข้างดี ไข้ลดลง อาการทั่วไปดีขึ้นกว่าเมื่อวาน อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ลูกศิษย์สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เข้าไปปรนนิบัติหลวงพ่อคูณ เพื่อป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติม

ที่มา: http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000092324

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น