ลิงค์ผู้สนับสนุน

วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ก้าวอีกขั้นของการพัฒนา "วัคซีน" กับหนึ่งความหวังป้องกันหวัดร้าย!!!

หนึ่งความหวังป้องกันหวัดร้าย!!

สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่ละวันยังคงเป็นประเด็นมีความเคลื่อนไหวให้ติดตามต่อเนื่อง
นอกเหนือจากการรณรงค์ดูแลสุขภาพ สุขอนามัยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการหมั่นล้างมือ สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อเจ็บป่วย ฯลฯ ซึ่งจะช่วยลดการแพร่เชื้อการเจ็บป่วย

วัคซีน ถือได้ว่าเป็นอีกความหวังการป้องกันหวัดร้าย โดยที่ผ่านมามีความคืบหน้ากล่าวขานอย่างกว้างขวางและทันที ที่เชื้อไวรัสตั้งต้น ไข่เพาะเชื้อสำหรับผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาจากองค์การอนามัยโลกเดินทางมาถึงประเทศ ไทย ทีมนักวิทยาศาสตร์ก็จะเริ่มเดินหน้าผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009!!

นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวให้ความรู้ถึงวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า อุบัติการณ์ไข้หวัดใหญ่ระบาดใหญ่ในโลกเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ไข้หวัดสเปนเป็นครั้งหนึ่งที่มีการระบาดมีผู้เสียชีวิตทั่วโลกจำนวนไม่น้อย จากนั้นมาก็มีการระบาดในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกมาเป็นระยะ ภัยธรรมชาติ ภัยโรคระบาดลักษณะดังกล่าวการ เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์เป็นสิ่งสำคัญ

จากนโยบายการจัดตั้งโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ในปีที่ผ่านมาได้วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต วัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำฤดูกาล ได้สำเร็จ นอกจากนี้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เกิดการระบาดใหญ่ทั้งโลก ทุกภูมิภาค วัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่จะผลิตครั้งนี้องค์การอนามัยโลก ก็ได้มอบความไว้วางใจประเทศไทย โดยสนับสนุนในเรื่องเทคโนโลยี

“ทุกภูมิภาคทั่วโลกองค์การอนามัยโลกได้ให้ทุนวิจัยและใน 6 ประเทศซึ่งก็มีประเทศไทย อินเดีย จีน เวียดนาม เม็กซิโกและบราซิล กระทรวงสาธารณสุขมอบให้องค์การเภสัชกรรมรับผิดชอบดูแลในเรื่องนี้และได้รับ ความร่วมมือด้านสถานที่ที่คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม ผลิตวัคซีน โดยห้องแล็บมีความพร้อมมีมาตรฐานเป็นห้องปฏิบัติการไบโอเซฟตี้ ระดับ 3 Bio-safety level 3 (BSL-3) ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลกมีความปลอดภัยในการทดลองกับเชื้อไข้หวัดใหญ่”

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำฤดูกาลที่ผลิตได้นี้เตรียมไว้ในช่วงที่มีการแพร่ ระบาดในฤดูฝน หน้าหนาวซึ่งมักพบผู้สูงอายุ เด็กเล็กป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่แล้วเสียชีวิตโดยแต่ละปีมีจำนวน ไม่น้อย การฉีดวัคซีนเป็นการสร้างภูมิป้องกันโรค วัคซีนที่ ผลิตได้ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาและการเสียโอกาสในการทำงาน อย่างที่กล่าวมาปี ที่ผ่านมาได้พัฒนาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลชนิด เชื้อตายเสร็จสมบูรณ์ จากนั้น จะผลิตเมื่อโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในระดับอุตสาหกรรมพร้อม

“การพัฒนาวัคซีนป้อง กันไข้หวัดใหญ่มีทั้งเชื้อเป็นและเชื้อตายซึ่งก็มีข้อดีและความแตกต่างกันใน การใช้ เมื่อฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือพ่นจมูกจะไปช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้ม กัน ข้อดีของเชื้อเป็นสามารถผลิตได้มากโดยจะใช้พ่นทางจมูกให้ กับผู้ที่ไม่มีภูมิและกระตุ้นในลักษณะเลียนแบบธรรมชาติซึ่งมีผลให้สร้างภูมิ คุ้มกันได้ดี

แต่ก็มีข้อยกเว้นกับคนไข้ที่เป็นโรคหอบหืด โรคปอดเรื้อรังซึ่งไม่ควรใช้ ส่วนทางด้านเชื้อตายจะตรงข้าม ผลิตได้น้อยกว่าซึ่งอาจไม่เพียงพอกับช่วงเวลานี้ที่ต้องการผลิตให้กับคน จำนวนมากได้มีภูมิ สร้างภูมิคุ้มกันเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรคนี้”

ขณะที่วัคซีนเป็นความหวังการป้องกันเมื่อเชื้อไวรัสตั้งต้นและไข่เพาะเชื้อ สำหรับผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มาถึงซึ่งเชื้อไวรัสตั้งต้นเป็นเทคโนโลยีจากประเทศรัสเซีย ส่วนไข่เพาะเชื้อมาจากประเทศเยอรมนีและในสัปดาห์นี้นักวิทยาศาสตร์ได้เริ่ม ทำงานคาดการณ์ว่าจะได้วัคซีนต้นแบบประมาณปลายเดือนสิงหาคม

“วัคซีนต้นแบบนั้นยังใช้กับคนไม่ได้จะต้องนำไปทดลองในสัตว์ ทดลองในคนภายใต้ การดูแลควบคุมของแพทย์และนักวิทยาศาสตร์อย่างใกล้ชิด จากนั้นต้องศึกษาครบทุกด้านว่า มีความปลอดภัย มีผลข้างเคียง หรือไม่ มีผลการสร้างภูมิต้านทานอย่างไร ฯลฯ ทุกอย่างจะต้องทดสอบอย่างละเอียด ต้องมีความปลอดภัยมีเอกสารยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงจะอนุญาตให้นำออกมาใช้ได้”

ขณะที่ วัคซีน เป็นคำตอบหนึ่งของการป้องกันโรค สร้างภูมิให้กับกลุ่มคนที่ไม่มีภูมิได้มีภูมิคุ้มกันและเมื่อมีภูมิขึ้น มาโอกาสป่วยจะลดลงหรือถ้าป่วยก็จะไม่รุนแรงมาก เนื่อง จากร่างกายมีภูมิต่อเชื้อโรคนั้นแล้ว ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าหลายต่อหลายครั้งนำมาซึ่งความเจ็บป่วยสูญเสีย อย่าง ไอกรน บาดทะยัก คอตีบ โปลิโอ หัดเยอรมัน หัดธรรมดา อีสุกอีใส ฯลฯ การพัฒนาวัคซีนได้ช่วยป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคเหล่านั้น

ถ้าถามว่าเชื้อเหล่านี้ยังมีอยู่ในธรรมชาติหรือไม่ เชื้อเหล่านี้ยังคงมีอยู่แต่เรามีภูมิต้านทานโอกาสการเจ็บป่วยจะลดน้อยลง ส่วนเชื้อไข้หวัดใหญ่แน่นอนย่อม มีการปรับเปลี่ยนสายพันธุ์ ทีม วิจัยผู้ทำวัคซีนก็ต้องปรับเปลี่ยนพัฒนาวัคซีน สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นอีกก้าวของการพัฒนาวัคซีนเป็นความหวังในการป้องกัน!!
ท่ามกลางสถานการณ์ ดังกล่าวที่ยังมีการแพร่ระบาดมีการ ติดเชื้ออยู่มาก ผู้อำนวยการองค์การ เภสัชกรรมให้คำแนะนำว่า เมื่อร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกัน ก็เหมือนกับบ้านที่ไม่มีประตู ผู้ร้ายบุกเข้าบ้านได้ง่ายอย่างที่กล่าว วัคซีนไม่ใช่ว่าจะผลิตกันได้ง่าย ๆ ในระหว่างนี้การดูแลสุขภาพ สุขอนามัยเป็นสิ่งที่ต้องไม่ละเลย ต้องช่วยกันรณรงค์ ดูแลสุขภาพทั้งการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อย ๆ

อีกทั้งถ้าป่วยควรสวมใส่หน้ากากอนามัยและถ้าเจ็บป่วยก็ขอให้พักผ่อนอยู่ที่ บ้าน แยกตัวเองไม่ปะปนกับคนในบ้านสัก ระยะ ฯลฯ การเคร่งครัดเปลี่ยน แปลงพฤติกรรมรับผิดชอบตนเองและส่วนรวมจะช่วยลดการระบาด ลงได้ แพทย์ท่านเดิมกล่าวด้วยความห่วงใย

ก่อนที่วัคซีนไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะนำมาใช้ป้องกันโรค ย้อนถึงเส้นทางวัคซีนที่มีการผลิตเกิดขึ้น กิตติศักดิ์ ภูพิพัฒน์ผล ผู้อำนวยการกองบรรจุชีววัตถุ ฝ่ายชีววัตถุ องค์การเภสัชกรรม ให้ความรู้ว่า วัคซีน เป็นสารที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์หรือสัตว์ให้สามารถป้องกันร่าง กายจากอาการติดเชื้อเฉพาะอย่างได้ โดยการติดเชื้อนี้ส่วนใหญ่มาจากแบคทีเรีย ไวรัสหรือสารพิษ

วัคซีนบางชนิดผลิตจากแบคทีเรียหรือไวรัสที่ถูกทำให้หมดฤทธิ์แล้ว หรือทำจากสารพิษที่ถูกทำให้หมดความเป็น พิษ บางชนิดผลิตจากการนำส่วนที่ก่อโรคของเชื้อจุลชีพ มาเพียงบางส่วน สร้างโดยการสังเคราะห์ จากเทคโนโลยีชีวภาพ

“วัคซีนจึงมีความหมายต่อการสร้างภูมิคุ้มกันหรือภูมิ ต้านทานต่อโรคซึ่งจะเป็นเชื้อตาย เชื้อเป็นหรือจะเป็นสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านพันธุกรรม ในที่นี้เราพูดถึงเชื้อโรคที่เข้าไปในร่างกายแล้วสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา อย่างที่บอกมีเชื้อเป็นและเชื้อตาย ซึ่งเชื้อเป็น หมายถึงเชื้อที่ยังมีชีวิตแล้วนำมาทำให้อ่อนฤทธิ์ลงหรือเป็นเชื้อที่ถูก พัฒนาสายพันธุ์ให้อ่อนฤทธิ์ แต่ยังมีชีวิตอย่างเช่นไวรัส 2009 ที่กำลังดำเนินการ

แต่ถ้าเป็นเชื้อตายเป็นการนำเชื้อที่เป็นโรคเป็นสายพันธุ์ที่พัฒนานำมาใช้ เป็นวัคซีน นำมาฆ่าเชื้อ ซึ่งเมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายแล้ว ร่างกายก็จะสร้างการตอบสนองกับเชื้อตัวนั้น อย่างเชื้อตายที่นำมาผลิตวัคซีนไข้หวัดตามฤดูกาล ซึ่งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ยังไม่มีในประเทศไทย ที่ผ่านมาต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ”

แต่อย่างไรก็ตาม วัคซีนที่ฉีดเข้าไปในร่างกายกว่าจะนำมาใช้ได้จะต้องมีการทดสอบอย่างมั่นใจ แล้วว่าสามารถใช้ได้ผลมีความปลอดภัย วัคซีนจึงถือได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ดีสุดที่ใช้ในการป้องกันโรค

ส่วนการผลิตวัคซีนขององค์การเภสัชกรรมมีการดำเนินการมายาวนาน อย่างที่ผ่านมามีการทำวัคซีนไข้ทรพิษ ที่ช่วยป้องกันจนโรคดังกล่าวนี้ก็หมดไป จากนั้นมาก็มี วัคซีนไอกรน คอตีบ บาดทะยัก ซึ่งเป็นวัคซีน ที่คุ้นกันดีในเด็กทุกคน วัคซีนเหล่านี้เป็นการผลิตขึ้นในประเทศ อีกทั้งยังมีการทำวัคซีน ไข้สมองอักเสบ จี อี ฯลฯ กระบวนการผลิตนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายใช้เวลาและเทคโนโลยี บางโรคใช้เวลา ไม่ต่ำกว่า 15-20 ปี

“วัคซีนบางชนิดชั่วชีวิตหนึ่งอาจเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น วัคซีนไข้เลือดออก วัคซีนมาลา เรีย เป็นวัคซีนที่ทั่วโลกถามหา ด้วยทั้งสองโรคนี้ยังคงมีการแพร่ระบาดอยู่มาก อย่างไข้เลือดออกดังที่ทราบมีปัญหาอยู่ไม่น้อยเพราะเนื่องจากตัวไข้เลือดออก เองมีถึง 4 สายพันธุ์ ในส่วนนี้เองนานาประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ต่างศึกษายังคงหาเทคนิคใหม่ ๆ ในการผลิตวัคซีน เพื่อนำมาป้องกันโรค”

ขณะที่วัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะเป็นเกราะป้องกันโรคระบาดนี้ แต่ดังที่ทราบต้องใช้เวลาซึ่งการเริ่มต้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ทั้งนี้ วัคซีน คงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเป็นเพียงแค่เครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะช่วย ป้องกันโรค ที่ดีสุดไม่มีสิ่งใด แน่แท้เท่าการดูแลสุขภาพ สุขอนามัยตนเองเพราะถ้า ร่างกายแข็งแรงก็จะไม่เกิด ความเสี่ยง ปลอดภัยห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ไม่เพียงเฉพาะหวัด แต่ยังมีความหมายต่อทุกโรคภัย

...เมื่อนั้นวัคซีนก็จะเป็นทางเลือกหนึ่ง !!.

ผู้เขียน - พงษ์พรรณ บุญเลิศ

ที่มา: http://dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=486&contentId=9545

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น