“สถานการณ์การระบาดยังไม่รุนแรง โดยจากการสุ่มตรวจเชื้อไวรัสจากผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ที่พัก รักษาที่โรงพยาบาล ผลตรวจเชื้อพบเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพียงร้อยละ 6 เท่านั้น ขณะที่ช่วยที่มีการระบาดเมื่อกลางปีที่ผ่านมี พบผู้ป่วยมากถึงร้อยละ 60-70 และยังไม่พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน ในภาพรวมการระบาดของโรคยังมีประปรายอยู่อำเภอและชุมชน พบผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวมเพิ่มขึ้น เช่น สุโขทัย จันทบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา และกรุงเทพฯ” นพ.ไพจิตร์ กล่าว
นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า สำหรับโรคไข้หวัดนกชนิด เอช5เอ็น1 ซึ่งขณะนี้มีข่าวผู้เสียชีวิตที่จังหวัดเดียนเบียน ประเทศเวียดนาม 1 ราย เป็นชายวัย 23 ปี ติดเชื้อจากการกินเลือดเป็ดดิบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่าน ถือเป็นสัญญาณเตือนให้ประเทศไทยต้องระมัดระวัง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่ให้เชื้อไข้หวัดนก ผสมพันธุ์กับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จนกลายไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์การระบาดรุนแรงขึ้น จึงให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังผู้ป่วยปอดบวมอย่างต่อเนื่อง และซักประวัติการสัมผัสสัตว์ทุกรายโดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยมีการระบาดของโรค ไข้หวัดนกทั้งสัตว์ปีกและคน ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ได้สั่งการให้ผู้ตรวจราชการที่ดูแลพื้นที่ลงควบคุมกำกับอย่างเคร่งครัด ในกรณีพบผู้ป่วยปอดบวมให้ส่งตรวจหาเชื้อไข้หวัดนกทางห้องปฏิบัติการทุกราย
ด้านนพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ไข้หวัดนกของไทย ไม่มีรายงานผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดนกติดต่อกันมากว่า 3 ปี แต่ประมาทไม่ได้ กรมควบคุมโรคได้ประสานการทำงานร่วมกับกรมปศุสัตว์อย่างใกล้ชิด ทั้งส่วนกลางและในระดับพื้นที่
โดยเฉพาะ ในพื้นที่ที่มีสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ ให้ใช้มาตรการควบคุมป้องกันขั้นสูงสุด เพื่อกันคนติดเชื้อ ในระดับนโยบายจะมีการประชุมร่วมกันในเร็วๆ นี้ เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานในรอบใหม่ เสนอต่อคณะกรรมการไข้หวัดนกระดับชาติ ที่มีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ทั้งนี้ หากประชาชนพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติในช่วงนี้เป็นต้นไป ขอให้รีบแจ้ง อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปศุสัตว์ เพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการว่าติดเชื้อไข้หวัดนกหรือ ไม่ และไม่จับซากสัตว์ด้วยมือเปล่า รวมทั้งไม่กินสัตว์ปีกที่กำลังป่วย หรือที่ตายแล้ว เพราะจะทำให้เสี่ยงติดเชื้อไข้หวัดนกได้ โรคนี้มีอัตราป่วยตายสูงถึงร้อยละ 60
ที่มาข่าว http://manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000146784








