ลิงค์ผู้สนับสนุน

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สธ.ส่งแพทย์ตรวจสามเณรวัดคีรีวงศ์-นครสวรรค์ พบป่วยเป็นไข้หวัด เกือบยกวัด

พบป่วยไข้ไอ เจ็บคอ 53 รูป ส่วนใหญ่อาการไม่มาก ให้พักรักษาตัวที่วัดและให้เจ้าหน้าที่ติดตามอาการทุกวัน

จากกรณีสื่อมวลชนเสนอข่าวสามเณรที่บวชเรียนหนังสือในโรงเรียนคีรีวงศ์วิทยา วัดคีรีวงศ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ป่วยเป็นไข้หวัดแทบยกวัด นอนจับไข้หนาวสั่นบนศาลารอแพทย์มาตรวจเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา

วันนี้ (6 ส.ค.)นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จาก การสอบถามข้อมูลไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์ ทราบว่า เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2552 โรงพยาบาลสรรค์ประชารักษ์ได้จัดทีมแพทย์พยาบาลไปให้การตรวจรักษาทันทีที่ได้ รับแจ้ง โดยสามเณรเริ่มทยอยป่วยตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2552 พบป่วย 53 รูป จากทั้งหมด 105 รูป ส่วนใหญ่อาการไม่มาก มีไข้ ไอ เจ็บคอ ไม่ต้องส่งไปนอนรักษาในโรงพยาบาล โดยได้แยกสามเณรที่ป่วยนอนพักรักษาตัว ไม่ปะปนกับสามเณรอื่น ๆ แนะนำเรื่องสุขอนามัยส่วนบุคคล และการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ติดตามอาการ และค้นหาสามเณรที่มีอาการป่วยทุกวัน

นาย แพทย์สุพรรณ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข ได้ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้วิธีการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการป่วยโรค ระบบทางเดินหายใจ ทั้งไข้หวัดทั่วไป ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และตามฤดูกาล มั่นใจว่าขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่มีความรู้ในการปฏิบัติตัวเป็นอย่างดี แต่ขอให้ทำอย่างต่อเนื่องจนเป็นนิสัย โดยประชาชนที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง เมื่อป่วยเป็นไข้หวัดขอให้พักงาน ใส่หน้ากากอนามัย และพักอยู่ที่บ้านจนอาการหายเป็นปกติ เพื่อลดการแพร่เชื้อสู่คนอื่น

"ส่วนคนที่ไม่ได้ป่วย หากจำเป็นต้องเข้าไปในที่มีคนอยู่หนาแน่นและมีผู้คนเข้าออกเป็นจำนวนมาก เช่น โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า วัด ศาสนสถาน หอพัก ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรคได้กว้างขวาง ขอให้ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และหมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลล้างมือฆ่าเชื้อโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจับลูกบิดประตู ราวบันได ที่กดชักโครก โต๊ะ เก้าอี้ สิ่งอื่นๆ ที่มีคนสัมผัสหรือใช้ร่วมกัน ซึ่งจะช่วยลดอัตราการป่วยโรคระบบทางเดินหายใจและไข้หวัดใหญ่ได้เป็นอย่างดี" โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/special/24589

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น